บทความที่น่าสนใจ

ทีลอซู น้ำตกที่สวยที่สุดในประเทศไทย

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายในดวงใจใครหลายคน “น้ำตกทีลอซู” น้ำตกกลางหุบเขาลึก ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้งผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งน้ำตกที่สวยที่สุดในประเทศไทย

เมื่อก่อน การเดินทางเข้ามาในน้ำตกแห่งนี้ค่อนข้างยาก เหมาะสำหรับสายเดินป่าเท่านั้น.. แต่ปัจจุบัน การเดินทางเข้ามาง่ายขึ้นและมีหลายรูปแบบ ช่วงนอกฤดูฝนสามารถขับรถ (แนะนำให้ใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น) มาที่จุดกางเต็นท์ ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแล้วเดินเท้าต่อเข้าไปได้เลย ส่วนในช่วงฤดูฝน (มิถุนายน-ตุลาคม) ถนนทางเข้าจะปิด ที่นี่มีอีกไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือการล่องเรือยางชมธรรมชาติที่สวยงาม ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. เลียบภูเขาหินปูนใหญ่โตที่มีสายน้ำโปรยปรายเป็นน้ำตกขนาดย่อม แวะแช่เท้าที่ธารน้ำร้อนท่ามกลางป่าไผ่ ส่วนเส้นทางเดินที่จะไปถึงตัวน้ำตกทีลอซูนั้นเป็นทางปูนอย่างดี ไม่ใช่สายเดินป่าก็สามารถเข้าได้สบาย ๆ โดยเราทำการจองโฮมสเตย์ให้ช่วยดูแลทั้งเรื่องที่พัก อาหาร และทัวร์ล่องเรือยางรับ-ส่ง เรียกว่าครบจบที่เดียว เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มชมเส้นทางมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติได้สรรสร้างไว้เลย

ทริปนี้ เรารวมตัวกับเพื่อน ๆ สิบคนเพื่อไปผจญภัยครั้งใหญ่กัน การเดินทางจากกรุงเทพฯ - ทีลอซูนั้นควรใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน

วันที่ 1 ขับรถเดินทาง 

วันที่ 2 ล่องเรือยาง

วันที่ 3 เดินทางกลับ

อุ้มผางนั้นอยู่ห่างจากตัวเมืองตากกว่า 250 กม. รวม ๆ ใช้เวลาเดินทางเกือบ 9 ชม.เลยทีเดียว ผ่านโค้งถึง 1,219 โค้ง ใครเป็นพวกเมารถง่าย แนะนำให้เตรียมตัวดี ๆ แต่ว่าธรรมชาติระหว่างทางนี้อลังการจนมองเพลิน ลืมคำว่าเมื่อยไปเลย


ก่อนถึงที่พัก เราได้เจอกับวิวพระอาทิตย์ตกสวย ๆ ด้วย ที่พักของอุ้มผางส่วนใหญ่เป็นโฮมสเตย์ชาวบ้าน มีโปรแกรมท่องเที่ยวผจญภัยเหมือน ๆ กันคือ ทีลอซู เปรโต๊ะลอซู เป็นต้น รวมไปถึงดูแลเรื่องอาหารครบมื้อ และที่นอน


วันที่ 2 ตื่นแต่เช้าตรู่รับอาหารเช้า และนั่งรถกระบะพร้อมเรือยาง ล้อหมุนออกจากที่พัก 7 โมงตรง เพื่อไปทำกิจกรรมที่เรารอคอย


เรือลำหนึ่งจุได้ 4-5 คน แต่ละลำจะมีฝีพายดูแลทั้งหัว-ท้าย ทุกคนมีความเชี่ยวชาญมาก อย่างลำเรา ด้านหน้าเป็นคุณลุงที่อายุไล่เลี่ยกับพ่อเราเลยล่ะ พายนำเที่ยวมาหลายสิบปีแล้ว ส่วนท้ายเรือเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่ฝึกนำเที่ยวมาตั้งแต่เด็ก ๆ เลย

คุณลุงจะคอยดูทางและกระแสน้ำ ส่วนคนหนุ่มแรงดีหน่อยก็คุมทิศทางอยู่ด้านหลัง บางช่วงโค้งกระแสน้ำเชี่ยวมาก บางจุดคือการล่องแก่งดี ๆ นี่เอง ซึ่งลุงแกจำได้ทุกจุด ตรงไหนสวยเป็นจุดท่องเที่ยวจะชี้ให้ดู ตรงไหนห้ามยืนห้ามซน แกจะบอกหมด

ธรรมชาติระหว่างทางที่เราเห็นมันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ภาพถ่ายจะสื่อออกมาได้จริง ๆ หากโชคดี เราจะได้เห็นรุ้งขึ้นที่น้ำตกทีลอจ่อ หรือน้ำตกสายรุ้ง แต่รอบที่เรามาไม่มีแดดเลยทำให้เห็นแค่ตัวน้ำตก แต่การมาช่วงหน้าฝน ทำให้เราได้รับอากาศเย็นตลอดเวลา สดชื่นมาก ๆ

มาถึงจุดแวะพัก เข้าห้องน้ำห้องท่า แช่เท้า รอบ ๆ จะเป็นป่าไผ่สูงใหญ่ มีความร่มรื่นมาก 

ไฮไลท์ของจุดเทียบเรือนี้ คือการลงมาแช่เท้าในลำธารน้ำอุ่น ผ่อนคลายก่อนออกเดินทางกันต่อ


การล่องเรือของเรามาสิ้นสุดที่หน่วยพิทักษ์ผาเลือด ซึ่งจะมีรถมารับเราเข้าไปยังทางเข้าน้ำตกทีลอซู บอกเลยว่าทางค่อนข้างโหด เป็นดินโคลนและลื่นมาก ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทางจึงปิดช่วงหน้าฝน

อาหารที่ทางทัวร์จัดไว้ให้เป็นข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาวกรอบ รสชาติบ้าน ๆ อร่อยกลมกล่อม ห่อไว้ตองเอาไว้ทำให้ข้าวยังอุ่น กินตอนเดินทางเหนื่อย ๆ ทำให้มีแรงฮึดขึ้นอีกเป็นหลายเท่าตัว



เติมพลังกันเรียบร้อยก็ถึงช่วงสุดท้ายของการเดินทาง เดินเท้าเข้าสู่น้ำตกทีลอซู มีระยะทางเพียง 1.5 กิโลเมตร ผ่านเส้นทางธรรมชาติ ชมต้นไม้นานาพรรณในลักษณะของป่าดงดิบ

ตามเส้นทางจะมีจุดแวะพักชมน้ำตกเล็ก ๆ ถ้าอากาศดี ก็อยากนั่งเอาเท้าจุ่มน้ำเหมือนกันนะ

มาเที่ยวหน้าฝนต้องไม่กลัวเปียก เพราะเปียกแน่นอน ยิ่งในป่าดิบชื้นแบบนี้ร่างกายแทบไม่ได้สัมผัสกับความแห้งเลย ดีที่ทางเดินเป็นปูน-บันไดอย่างดี ไม่ต้องกลัวลื่นตอนเดินขึ้นลงเนิน

ได้ยินเสียงน้ำตกดังกึกก้องตั้งแต่ 300 เมตรสุดท้าย บ่งบอกให้รู้ว่าจุดหมายอยู่ไม่ไกล เมื่อเราเดินลงบันไดมา ถึงกับต้องตะลึงในความงามของ “ทีลอซู” น้ำตกหินปูนขนาดใหญ่ แทรกตัวอยู่ในธรรมชาติที่สมบูรณ์ หลายคนยกให้เป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในประเทศไทย และยังสวยติดอันดับ 6 ของเอเชียอีกด้วย

ทีลอซู มาจากภาษากะเหรี่ยง แปลว่าน้ำตกดำ ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร หน้าน้ำตกกว้างถึง 500 เมตร สูง 300 เมตร มีฟอร์มการไหลที่แยกเป็นชั้น ๆ เลาะออกมาตามซอกหิน เป็นเอกลักษณ์สวยงาม

ยิ่งมาช่วงหน้าฝน เราแทบไม่เห็นพื้นที่ของหินปูนเลย เป็นภาพน้ำตกที่เหมือนอยู่ในฝัน ในเทพนิยายมาก ๆ มีละอองน้ำฟุ้งมาตลอดเวลา เกิดทั้งไอน้ำและไอหมอก แตกต่างจากภาพที่เห็นของคนอื่นที่เขามาช่วงฤดูร้อน ฤดูหนาวมาก ๆ

 

บอกตรง ๆ เลยว่าที่นี่คืออีกที่เที่ยวในฤดูฝนที่เราจับขึ้นหิ้ง เป็นที่สุดของความประทับใจ แม้เราจะไม่ได้เจอแดด ไม่มีฟ้าสดใส ไม่เห็นสายรุ้ง แต่ความชุ่มฉ่ำของสายฝน และทัศนียภาพที่เหมือนฝันนี้ กลายเป็นโมเมนต์ที่หายากมาก ๆ ซึ่งเราและเพื่อน ๆ ก็ไม่มีใครผิดหวังกับการเดินทางครั้งนี้เลย ไม่ว่าจะฤดูไหนก็อยากให้ทุกคนได้มากันสักครั้งนะ

 

ติดต่อสอบถาม
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง 

โทร : 055-508-780 , 088-427-5272

แฟนเพจ : เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง

https://www.facebook.com/UmphangWildlifeSanctuary

 

แสดงผล 2154 ครั้ง