ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวกิจกรรม

ททท.ชูอาหารไทยท้องถิ่น 25 เมนูทั่วประเทศ และ 6 เมนู Amazing Thai Taste พร้อมมอบตราสัญลักษณ์ “สุขใจชวนกิน อาหารถิ่นต้องห้ามพลาด” รับรองความอร่อยแบบไทยและถูกสุขอนามัย

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชูอาหารไทยในท้องถิ่นหวังเสริมกระแสการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ด้วยการเปิดตัวโครงการเสริมสร้างมาตรฐานอาหารถิ่น “สุขใจชวนกิน อาหารถิ่นต้องห้ามพลาด” เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวได้เลือกรับประทานอาหารไทยประจำภาคและอาหารไทยยอดนิยม ที่ปรุงด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นมีรสชาติอร่อยและสะอาดถูกสุขอนามัย

นายยุทธศักดิ์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า โครงการเสริมสร้างมาตรฐานอาหารถิ่น เป็นโครงการฯ ที่ ททท. ได้นำพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่นิยมรับประทานอาหารในท้องถิ่นเมื่อไปเยือนยังสถานที่ต่างๆ ททท. จึงหยิบยกเมนูอาหารท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาคมาเป็นอีกหนึ่งสินค้าทางการท่องเที่ยว โดยคัดเลือก 25 เมนูจาก 5 ภูมิภาค คือ ภาคเหนือ ได้แก่ ข้าวซอย ขนมจีนน้ าเงี้ยว แกงฮังเล ลาบคั่ว น้ าพริกหนุ่มและไส้อั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ซุบหน่อไม้ ไส้กรอกอีสาน แกงอ่อม ลาบเป็ด ไก่ย่าง ภาคกลาง ได้แก่ น้ำพริกกะปิ หลน ปลาดุกผัดเผ็ด แกงฉู่ฉี่ แกงคั่ว ภาคตะวันออก ได้แก่ หมูชะมวง ไก่บ้านต้มระก า ปลากะพงทอดน้ำปลา เส้นจันท์ผัดปู น้ำพริกไข่ปูและภาคใต้ ได้แก่ แกงส้ม(แกงเหลือง) แกงไตปลา คั่วกลิ้ง ผัดสะตอน้ำพริกกุ้งเสียบ นอกจากนี้ ยังได้คัดเลือกอีก 6 เมนู ซึ่งเป็นเมนูอาหารไทยยอดนิยมจากโครงการ อะเมสซิ่งไทย เทสต์(Amazing Thai Taste) ได้แก่ ผัดไทย ต้มข่าไก่ ต้มย ากุ้ง แกงมัสมั่น ส้มต า และแกงเขียวหวานโดย ททท. จะมอบตราสัญลักษณ์ “สุขใจชวนกิน อาหารถิ่นต้องห้ามพลาด” ให้กับร้านอาหารที่ได้มาตรฐานตามที่กำหนดทั้งวัตถุดิบ รสชาติและความสะอาด เพื่อให้นักท่องเที่ยวมั่นได้ใจว่าจะได้รับประทานอาหารไทย

ที่มีความอร่อย รสชาติแบบดั้งเดิมและถูกสุขลักษณะ ทั้งนี้ ได้ก าหนดพื้นที่ในการด าเนินโครงการไว้ 29 จังหวัด แบ่งเป็น เมนูอาหารท้องถิ่น 5 ภาค ด าเนินการในพื้นที่ “12 เมืองต้องห้าม ... พลาด” และ “12 เมืองต้องห้าม ...พลาดพลัส” รวม 24 จังหวัด ในส่วนของเมนูอาห ารไทยยอดนิยมนั้น ด าเนินการใน 5 จังหวัดหลักทางการท่องเที่ยว ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดภูเก็ต จังหวัดชลบุรี และกรุงเทพฯ

 นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติม ทางสถาบันอาหาร ได้พิจารณาร่วมกับ ททท.ในการแต่งตั้งคณะกรรมการตัดสิน โดยแบ่งออกเป็นคณะกรรมการ ส่วนกลาง ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจ านวน 7 ท่าน ได้แก่ 1. นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อ านวยการ ฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 2. นางสาวสุนทรีย์ เกตุคง ผู้อ านวยการ ฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ ผู้แทนจากสถาบันอาหาร 3. เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ด้านอาหารไทยและเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนอาหารไทย เอ็ม เอส ซี 4. เชฟสมศักดิ์ รารองค า นายกสมาคมเชฟ แห่งประเทศไทย 5. ดร.นฤมล นันทรักษ์ ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการด้านอาหารไทย 6. มล.ภาสันต์ สวัสดิวัฒน์ นักชิม และเซเลบริตี้ด้านอาหาร 7. นายเกริกพล มัสยวาณิช ดารานักชิมที่มีชื่อเสียงที่ได้รับการยอมรับ ตัดสินอาหารไทย ยอดนิยม 6 เมนู และคณะกรรมการประจ าแต่ละภูมิภาคภาคละ 1 ชุด รวม 5 ชุดประกอบด้วยคณะกรรมการ 5 ท่าน ได้แก่ 1. ผู้แทนจาก ททท. 2. ผู้แทนจากสถาบันอาหาร 3. ผู้แทนจากส านักงานวัฒนธรรมท้องถิ่นจังหวัด 4. ผู้แทนสมาคมเชฟประจำภูมิภาค 5. สื่อมวลชนประจ าท้องถิ่น พร้อมนักวิชาการจากสถาบันอาหาร ทำการตรวจร้านอาหารในพื้นที่โครงการฯ เพื่อตัดสินอาหารท้องถิ่นโดยเกณฑ์การตัดสินจะพิจารณามาจาก 5 หัวข้อหลัก คือ 1. สุขอนามัยและความปลอดภัย 2. คุณค่าวัตถุดิบท้องถิ่นไทย 3.รสชาติ 4.เนื้อสัมผัส และ 5. การนำเสนออาหาร โดยร้านอาหารที่ผ่านการตัดสินจะได้รับใบรับรองมาตรฐานอาหารจาก ททท. ตุ๊กตาน้องสุขใจพร้อมสติ๊กเกอร์ตราสัญลักษณ์โครงการฯ เพื่อแสดงให้เห็นว่าร้านดังกล่าวได้รับการคัดเลือกตรงตามมาตรฐานของโครงการเสริมสร้างมาตรฐานอาหารถิ่น “สุขใจชวนกิน อาหารถิ่นต้องห้ามพลาด”

 เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ด้านอาหารไทย ซึ่งเป็นคณะกรรมการและ ที่ปรึกษาโครงการฯ กล่าวเสริมว่า อาหารถิ่นในแต่ละพื้นที่จะมีเอกลักษณ์ และวัฒนธรรมท้องถิ่นเฉพาะที่ แตกต่างกันออกไป เพราะอาหาร 1 จานต้องมีองค์ประกอบที่สมดุล ทั้งคุณภาพของวัตถุดิบ รสชาติแบบไทยแท้ ดั้งเดิม ความสะอาดในการประกอบอาหาร การเลือกภาชนะใส่อาหาร การจัดวางและตกแต่ง ก็มีส่วนส าคัญ ที่ช่วยให้อาหารถิ่นน่ารับประทานและเพิ่มมูลค่าได้ ซึ่งคณะกรรมการจะให้ความสำคัญในทุกอย่าง เพื่อให้ ตราสัญลักษณ์ “สุขใจชวนกิน อาหารถิ่นต้องห้ามพลาด”นี้ เป็นเครื่องหมายที่นักท่องเที่ยวสามารถวางใจถึง คุณภาพของอาหารถิ่นได้อย่างแท้จริง

 ทั้งนี้ คณะกรรมการ จะเริ่มลงพื้นที่พิจารณาตัดสินอาหารทั้ง 31 เมนู 29 จังหวัด ในเดือน สิงหาคม - กันยายน 2559 ประกาศผลการตัดสินและมอบประกาศนียบัตรในเดือน ตุลาคม 2559 โดย ททท. คาดว่า จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยว ได้สัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่นผ่านอาหารประจ าภาคที่มีรสชาติ อร่อยแบบดั้งเดิมและปลอดภัย

---------------------------------------------------------------------------

แสดงผล 1349 ครั้ง