ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวเศรษฐกิจ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผนึกกำลังผู้ประกอบการและพันธมิตรทางการท่องเที่ยวไทย ร่วมงาน WTM 2023 ระหว่างวันที่ 6 – 8 พฤศจิกายน 2566 ณ Excel London กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เปิดตัวแคมเปญ Meaningful Relationship ครั้งแรกในตลาดยุโรป และผลักดันประเทศไทยมุ่งสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมเร่งเครื่องตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพจากสหราชอาณาจักรสู่เป้าหมาย 940,000 คนในปี 2567

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า งาน World Travel Market หรือ WTM เป็นงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวระดับโลก และมีความสำคัญที่สุดในสหราชอาณาจักร ซึ่งเปิดโอกาสให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากทั่วโลกร่วมเจรจาธุรกิจและนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว การนำผู้ประกอบการไทยร่วมเจรจากับผู้ประกอบการธุรกิจจากตลาดยุโรปครั้งนี้ จะเป็นการเร่งฟื้นฟูและผลักดันตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพในตลาดยุโรปที่มีการใช้จ่ายทางการท่องเที่ยวสูง และมีระยะเวลาพำนักนาน โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการพลิกฟื้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า การเข้าร่วมงาน WTM ในครั้งนี้ ททท.ได้เปิดตัวแคมเปญ Meaningful Relationship ซึ่งเป็นแคมเปญสื่อสารตลาดต่างประเทศ โดยต้องการจะส่งสารไปถึงนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้มาสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่สุดพิเศษในประเทศไทย ซึ่งจะสร้างความสัมพันธ์ที่เปี่ยมด้วยความหมายทั้งกับผู้คน ชุมชนท้องถิ่น ธรรมชาติ หรือแม้แต่กับตัวตนภายในของนักท่องเที่ยวเอง ที่จะทำให้การเดินทางนั้นเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าและอยู่ในความทรงจำ สร้างความประทับใจและความผูกพันให้เดินทางมาประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ททท. ยังมุ่งที่จะตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้มุ่งสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยการนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวจากผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงร่วมกับพันธมิตรในการเสนอขายเส้นทางการท่องเที่ยวแบบ Carbon-Neutral สู่ตลาดยุโรป ซึ่งกระแสการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญ

คูหาประเทศไทย นำเนอภายใต้แนวคิด Meaningful Relationship และ Sustainable Tourism Goals โดยใช้วัสดุตกแต่งที่มาจากธรรมชาติ และวัสดุท้องถิ่นของไทย เพื่อสะท้อนแนวคิดการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมทั้งการใช้โทนสีและแสงไฟที่ให้ความรู้สึกความอบอุ่น สื่อถึงความมีมิตรไมตรีของคนไทยที่สร้างความประทับใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้ที่มาเยือน โดย  ททท. นำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย ประกอบด้วย 22 โรงแรม และ 12 บริษัทนำเที่ยว พร้อมด้วยสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย  สายการบินไทย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส และบริษัทไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัดเข้าร่วมงานเพื่อเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการจากทั่วโลก โดยนอกจากการเจรจาธุรกิจและการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลการท่องเที่ยวประเทศไทยแล้ว ยังมีกิจกรรมหลักภายในงาน WTM 2023 ได้แก่ กิจกรรม Amazing Thailand Press Conference 2023 เชิญบริษัทนำเที่ยวและสื่อมวลชนสำคัญๆ ในสหราชอาณาจักร ร่วมอัปเดทสถานการณ์และแนวทางส่งเสริมตลาด พร้อมนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย รวมถึงการมอบรางวัล Responsible Thailand Awards 2023 แก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยที่มีผลงานดีเด่นในการดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน กิจกรรมสาธิต มุ่งนำเสนอกิจกรรมที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ โดยการนำขยะจากทะเลไทยมารีไซเคิลเป็นของที่ระลึก Souvenir from the Sea ด้วยการประดิษฐ์ถุงผ้าจากแหอวนประมง และการทำของที่ระลึกพวงกุญแจจากการ Upcycling ฝาขวดพลาสติก กิจกรรม Carbon Neutral Tourism in Thailand by TEATA & Tourlink เชิญผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเข้าร่วม 25 ราย เพื่อนำเสนอขาย 20 เส้นทางท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด ปรับ ลด ชดเชย ในตลาดยุโรป

ในโอกาสนี้ ททท. ยังได้รับพระกรุณาธิคุณจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเข้าร่วมงาน เพื่อเยี่ยมชมคูหาประเทศไทยและพระราชทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน พร้อมกันนี้ ยังทรงสาธิตการทำ Souvenir from the Sea พระราชทานแก่ผู้มาร่วมงาน ณ คูหาประเทศไทยอีกด้วย

ทั้งนี้ เพื่อสร้างการรับรู้การเปิดตัวแคมเปญ Meaningful Relationship ภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ททท. ยังได้นำเสนอ Amazing Thailand Bus โดยตกแต่ง (Wrap) รถโดยสารประจำทางสองชั้น (London Bus) ทั้งภายนอกและภายในรถ นำเสนอภาพที่เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นของประเทศไทย ได้แก่ ยักษ์ (สหัสเดชะ) ภาพวัดอรุณราชวราราม และทะเลไทย (เกาะพีพี จังหวัดกระบี่) และร่วมมือกับบริษัทไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ประชาสัมพันธ์สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตร ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด พร้อมยังต่อยอดประชาสัมพันธ์ Soft Power ไทย ด้วยการมอบส่วนลดพิเศษจากร้านอาหาร THAI SQUARE ร้าน PATARA และร้าน NIPA THAI  แก่ผู้โดยสาร และจัดกิจกรรมออนไลน์มอบกางเกงช้างเป็นของที่ระลึกแก่ผู้ที่ร่วมแชร์ภาพถ่าย Amazing Thailand Bus อีกด้วย โดยรถให้บริการรับ-ส่งฟรี (Hop On Hop Off) ผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในกรุงลอนดอน อาทิ ย่านจัตุรัสรัฐสภา, Trafalgar Square, Oxford Street ซึ่งจะดึงดูดความสนใจและสร้างการรับรู้สู่กลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง ในวันที่ 5 และ 8  - 12 พฤศจิกายน 2566 โดยจะจอดบริเวณ  Excel London ในวันที่ 6 – 7 พฤศจิกายน 2566 เพื่อสร้างการรับรู้แก่ผู้เข้าร่วมงาน WTM

ตลาดนักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักรถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีระยะเวลาพำนักนาน ประมาณ 17.8 วัน และค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่อทริปสูง โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 75,000 บาทต่อคนต่อทริป โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ตุลาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว จำนวน 617,017 ราย ซึ่ง ททท. คาดว่าภายในปี 2566 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 795,000 คน สร้างรายได้ 62,000 ล้านบาท โดยจะเร่งส่งเสริมตลาดให้นักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรมุ่งสู่เป้าหมาย 940,000 คน สร้างรายได้ 84,860 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2567