ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวเศรษฐกิจ

กก. ย้ำมาตรการความเชื่อมั่นและความปลอดภัย เตรียมออกมาตรการเยียวยานักท่องเที่ยวกรณีเสียชีวิต-บาดเจ็บ คาดเริ่มใช้กุมภาพันธ์ 2567

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมออกมาตรการเยียวยานักท่องเที่ยวต่างชาติ กรณีเสียชีวิต เยียวยาไม่เกิน 1 ล้านบาท และกรณีบาดเจ็บ เยียวยาตามจริงไม่เกิน 5 แสนบาท ตอกย้ำมาตรการความเชื่อมั่นและความปลอดภัย ร่วมกับ 12 หน่วยงานภาครัฐ พร้อมอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะช่วงเทศกาล คาดว่าจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป

นางสาวสุดาวรรณ  หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย จึงเกิดเป็นความร่วมมือของ 12 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กรมการท่องเที่ยว, กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย,บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) , สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, กรมการขนส่งทางบก, กรมเจ้าท่า, ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล, กรมการปกครอง, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, และ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งจะครอบคลุมภารกิจด้านการบริการ การดูแลอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 ที่จะมีการเดินทางท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก

สำหรับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นอกจากจะดำเนินการด้านการสื่อสารผ่านแคมเปญ “Thais Always Care หรือ คนไทยใส่ใจเสมอ”แล้ว ยังได้ต่อยอดมาตรการด้านความเชื่อมั่นและความปลอดภัยด้วยการนำเสนอของบกลางจากสำนักงบประมาณ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต กรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต จะได้รับค่าชดเชยไม่เกิน 1 ล้านบาท และกรณีเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน จะได้รับค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 5 แสนบาท ทั้งนี้ งบประมาณในการดำเนินนโนบายดังกล่าว มาจากกองทุนเยียวยาฯ เดิม และอยู่ระหว่างขั้นตอนการทำความตกลงกับกรมบัญชีกลางเกี่ยวกับวิธีเบิก-จ่ายและพิจารณาอัตราที่เหมาะสมของรายละเอียดค่าใช้จ่าย โดยนโยบายการเบิก-จ่าย จะรวดเร็วกว่ากองทุนเยียวยาฯ เดิม ซึ่งโรงพยาบาลจะสามารถเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลได้โดยตรงจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และต้องเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางกลับประเทศต้นทาง คาดว่าจะเริ่มมีผลใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐทั้ง 12 หน่วยงาน ยังคงเดินหน้าบูรณาการภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวร่วมกัน เพื่อส่งมอบประสบกรณ์ท่องเที่ยวไทยที่มีคุณค่าและความหมายอย่างต่อเนื่อง อาทิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) นำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในระบบเช็คอินและระบบรับสัมภาระอัตโนมัติ, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินมาตรการวีซ่าฟรีแก่นักท่องเที่ยว และการอำนวยความสะดวกด้านพิธีการเข้าเมืองให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยใช้ระบบช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Automatic Channel) , กรมการขนส่งทางบก จะดำเนินการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวกรณีถูกรถโดยสารสาธารณะ (แท็กซี่) เอารัดเอาเปรียบ, กรมเจ้าท่า ดำเนินการปรับปรุงท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยตรวจสอบทะเบียนเรือและตรวจสภาพความปลอดภัย พร้อมทั้งติดตั้งระบบควบคุมสถานีเรือ smart pier และพัฒนาเส้นทางเดินเรือเชื่อมต่อจากแม่น้ำเจ้าพระยาสู่ลำคลองต่างๆ และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ดำเนินการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย (สกชย.) และหน่วยงานต่างๆ จัดทำแผนความร่วมมือ (Plan For Cooperation) เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทางทะเล, กรมการปกครอง กำชับเจ้าหน้าที่ในการดูแลความเรียบร้อยด้านกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรการขยายระยะเวลาเปิดสถานบริการถึงตี 4, กรมการท่องเที่ยว ตรวจสอบใบอนุญาตและมาตรฐานการประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์  และป้องกันธุรกิจนอมินี (ตัวแทนอำพราง) ให้เป็นไปตามกฎหมาย ,กระทรวงสาธารณสุข จะร่วมดูแลกรณีเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุฉุกเฉินต่างๆ โดยเฉพาะการรักษาพยาบาลและการส่งต่อให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดสรรเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (Tourist Assistance Center :TAC) ประจำศูนย์ช่วยเหลือและเยียวยานักท่องเที่ยวทั่วประเทศ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว บริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวให้ปลอดภัย รวมถึงจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวโดยประสานการปฏิบัติกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีความพร้อมทั้งเครื่องมือและอัตรากำลังในทุกพื้นที่ พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางการประสานงานของหน่วยงานต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูตที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย และ ททท. จะดำเนินแคมเปญสื่อสาร “Thais Always Care”ภายใต้แนวคิด “LAND OF CARE” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางและส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวที่ดีของประเทศไทย โดยจัดทำข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยวของไทยที่น่าสนใจและมีประโยชน์เผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งข้อมูลกิจกรรมท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ มาตรฐานความปลอดภัย การอำนวยความสะดวกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมาตรฐานการให้บริการของผู้ประกอบการท่องเที่ยว รวมทั้งประชาสัมพันธ์เชิงรุกนำเสนอความสวยงามของประเทศไทยผ่านคอนเทนต์
ของอินฟลูเอ็นเซอร์ชาวต่างชาติ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย

แสดงผล 226 ครั้ง