Article Detail Page Background

ท่องเที่ยวและกีฬา...ถึงเวลาต้องปฏิรูป

09 กรกฎาคม 2558
ข่าวเศรษฐกิจ

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระท่องเที่ยว ประกาศยกเครื่องปฏิรูปงานท่องเที่ยวและกีฬาย้ำการท่องเที่ยวต้องเน้นเพิ่มรายได้ต่อหัวให้คนไทยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับภูมิภาคได้จริง ไม่ประมาทประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจจีนและเอเชียตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเตือน

สถานการณ์การท่องเที่ยว

1) จำนวนนักท่องเที่ยววันที่ 1 - 5 กรกฎาคม 2558 มีจำนวน381,229คนขยายตัวร้อยละ 38.66 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาโดยนักท่องเที่ยว 2 อันดับแรกคือจีนและมาเลเซีย

2) รายได้จากกาท่องเที่ยวนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 จนถึงปัจจุบัน (5 ก.ค. 58) มีรายได้จากการท่องเที่ยวแล้ว 1.07 ล้านล้านบาทขยายตัวร้อยละ 22.06 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

3) จากจำนวนนักท่องเที่ยวในท่าอากาศยานหลัก 4 แห่ง ในวันที่ 1 - 5 กรกฎาคม มีการขยายตัวโดยเฉพาะท่าอากาศยานเชียงใหม่ที่ขยายตัวถึงร้อยละ 79.2 รองลงมาได้แก่ ท่าอากาศยานดอนเมืองสุวรรณภูมิ และภูเก็ต ที่ขยายตัวร้อยละ 74.8 ร้อยละ 47.2 และร้อยละ 27.8 ตามลำดับ

 

นางกอบกาญจน์  วัฒนวรางกูร  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  กล่าวว่าถึงเวลาที่ประเทศไทยต้องมีการขับเคลื่อนงานด้านการท่องเที่ยวและกีฬาให้เป็นเนื้อเดียวกันคือ “สร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน  มีคุณภาพ กระจายรายได้ ทำให้คนรักประเทศไทย สร้างการกีฬาสู่ความเป็นเลิศ พัฒนาคนให้มีคุณภาพ  รักสามัคคี  มีวินัยต่อกัน การกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว

ขอเริ่มต้นสร้างความมั่นใจให้ประเทศไทย ด้วยการเติบโตของการท่องเที่ยวไทยที่ยังจะดีมากไปจนถึงปลายปี 2558 โดยดูจาก Forward Booking ของการจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า กรกฎาคม 2558 เพิ่มขึ้น +43% , สิงหาคม 2558 เพิ่มขึ้น +30% และกันยายน 2558 เพิ่มขึ้น +40% จากปีที่แล้ว

 สำหรับในมิติการปฏิรูปด้านการท่องเที่ยว เตรียมนำเสนอร่างยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย พ.ศ. 2558 – 2560แบบบูรณาการ 8 กระทรวง ต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อ “วางรากฐานการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพอย่างมีดุลยภาพและยั่งยืน”และบรรลุเป้าหมาย 3 ด้าน ได้แก่

 (1) ด้านเศรษฐกิจ ปี 2559 สร้างรายได้ 2.3 ล้านล้านบาท และ ปี2560 สร้างรายได้ 2.5 ล้านล้านบาท และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นโดยเฉพาะภาคเกษตรกรรม

 (2) ด้านสังคม  สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี เสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและอนุรักษ์วิถีไทย

 (3) ด้านสิ่งแวดล้อม มีการพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน

โดยกำหนดประเด็นยุทธศาสตร์หลัก3 ประเด็น คือ ยุทธศาสตร์การพัฒนาสินค้าและบริการ ยุทธศาสตร์ด้านการบริหารจัดการและยุทธศาสตร์ปฏิรูปการตลาดในส่วนของยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาสินค้าและบริการ ได้มีการกำหนด กลยุทธ์การพัฒนาเชิงพื้นที่(5Cluster)ที่ทำและตกลงร่วมกับประชาคมทุกพื้นที่ ทั้งภาคชุมชน ภาคธุรกิจ ภาคการบริหารส่วนท้องถิ่น ภาครัฐและเตรียมนำเสนอร่างแผนปฏิบัติการพัฒนาการท่องเที่ยวประจำเขตพัฒนาการท่องเที่ยวทั้ง 5 เขต ให้คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติพิจารณา เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยสาระสำคัญของแผนพัฒนาการท่องเที่ยวในแต่ละเขต มีดังนี้

(1) เขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา(เชียงใหม่, เชียงราย, ลำพูน, ลำปาง, และพะเยา)มีเป้าหมายหลักเพื่อมุ่งสู่ “การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาล้านนาเชิงสร้างสรรค์เชื่อมโยงอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง”เพื่อเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เชื่อมโยงไทย ลาว พม่าและจีน บนฐานความหลากหลายของทรัพยากรการท่องเที่ยว โดยเน้นวัฒนธรรมและภูมิปัญญาล้านนา และการสร้างคุณค่าและมูลค่าจากทรัพยากรการท่องเที่ยวทางธรรมชาติสู่การเป็นแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

(2)  เขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามัน(ภูเก็ต, กระบี่, พังงา, ตรัง, และสตูล)มุ่งเน้น“การท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลก บนฐานวัฒนธรรมอันดามัน”โดยมุ่งพัฒนาให้จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดกระบี่เป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงและกระจายนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งพัฒนาเมืองท่องเที่ยวจังหวัดพังงา ตรัง และสตูลเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพทางการแข่งขันได้ในระดับสากล ต่อยอดฐานและสร้างคุณค่าให้กับต้นทุนทางวิถีชีวิต วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของอันดามันสู่กิจกรรมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงร่วมกับทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล

(3) เขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมอีสานใต้ (นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ, และอุบลราชธานี)มีเป้าหมายหลัก“การท่องเที่ยวแห่งวิถีชีวิตอีสานใต้ร่วมสมัย เชื่อมโยงลาว กัมพูชา และเวียดนาม”โดยการพัฒนายกระดับอารยธรรมอีสานใต้ และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อเพิ่มมูลค่าและคุณค่าทางการท่องเที่ยว พัฒนาให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีสีสัน หลากหลายกิจกรรม เต็มเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตของการท่องเที่ยว ที่ผสมผสานกับอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของอีสานใต้ และการเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

(4) เขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออก (ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, และตราด)เน้น“การท่องเที่ยวชายทะเล สีสันตะวันออกระดับสากล ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเชื่อมโยงสู่นานาชาติ” โดยมุ่งพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสีสัน กิจกรรม และเทศกาล เช่น ที่พัทยา สร้างให้เป็น Sport Destination ใช้ทรัพยากรการท่องเที่ยวที่เน้นการเพิ่มคุณค่า  ชายทะเลตราด เป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตลอดจนเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล

(5) เขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก (เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, และระนอง)มีเป้าหมายหลัก “การท่องเที่ยวพักผ่อนเพื่อสุขภาพชั้นนำของโลก”โดยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวและผู้สูงอายุ ยกระดับเป็นเมืองพักผ่อนเพื่อสุขภาพระดับสากล ยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันเพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ และกำหนดขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ

โดยการ Branding ประเทศไทยยังคงเน้น Amazing Thailand เน้นการท่องเที่ยวคุณภาพ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน Quality Leisure Destination โดย Campaign ท่องเที่ยววิถีไทย Discover Thainessจะยังคงเป็น Sub Theme จากปี 2558 จนถึง 2560 เพราะเป็นอัตตลักษณ์ DNA ที่แท้จริงของความเป็นไทย แต่จะลงลึกมากขึ้น เช่นในปี 2559 ---เน้น 12 เมืองต้องห้าม …พลาด Plus รวมทั้งเรื่อง “เขาเล่าว่า” 25 เรื่อง 25 Destination เน้นเนื้อหา Content เรื่องราวสถานที่ท่องเที่ยว เจาะลึกของแต่ละท้องถิ่น

ภาพข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวล่าสุด

ททท. จัดงาน NAS SUMMIT BANGKOK 2025 อีเวนต์ระดับโลกของคอนเท้นต์ครีเอเตอร์กว่า 1,000 ราย ร่วมแลกเปลี่ยนไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ สร้างแรงบันดาลใจ และถ่ายทอดประสบการณ์ท่องเที่ยวประเทศไทยไปทั่วโลก
ททท. ดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพตลาดเม็กซิโกเที่ยวไทย ร่วมกับพันธมิตรเปิดตัวแคมเปญ Thailand Special Deal พร้อมปลุกเสน่ห์ไทยในงาน Thai Festival Mexico 2025 เฉลิมฉลอง 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เม็กซิโกในปี 2568
ททท. เผย ประชาชนใช้สิทธิจองที่พัก “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เมืองหลักเต็มจำนวนแล้ว เชิญชวนใช้สิทธิ์เดินทางเมืองน่าเที่ยวต่อเนื่อง คาดหยุดยาววันแม่นักท่องเที่ยวไทยเดินทาง 3.16 ล้านคน-ครั้ง

ข่าวที่น่าสนใจ