เที่ยวทะเล 7 เกาะสวยน้ำใสในประเทศไทย
เข้าสู่ช่วงหน้าร้อนแล้ว ใครที่ร่างกายต้องการทะเล อยากไปเที่ยวคลายร้อน ดื่มด่ำธรรมชาติที่สวยงาม สัมผัสหาดทรายสีขาว หรือจะไปดำน้ำ ดูปะการัง ชมความสวยงามใต้ท้องทะเล… ซัมเมอร์นี้ ททท. ขอแนะนำทุกคนเที่ยวทะเล 7 เกาะสวยน้ำใสในประเทศไทยที่รับรองว่าหากได้ไปหนึ่งครั้งแล้วต้องติดใจจนกลับไปซ้ำแน่นอน !!
1. เกาะเสม็ด ระยอง
อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด หรือ เกาะเสม็ด เป็นเกาะที่ใครหลาย ๆ คนต้องเคยไป เพราะเดินทางง่ายและมีทะเลที่สวยงาม สะอาด ไปได้บ่อยไม่เบื่อ นอกจากจะเดินเล่นบนชายหาด เดินเที่ยวหาของกินอร่อย ๆ บนเกาะแล้ว บนเกาะเสม็ดยังมีกิจกรรมที่เราสามารถไปทำได้อีกด้วย เช่น ดำน้ำชมปะการัง และปลาการ์ตูน พายเรือแคนู เล่นน้ำ และดูการแสดงโชว์ Fire Man Show
เรือโดยสารไปยังหาดต่าง ๆ จะมีให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 - 18.00 น. ราคาประมาณ 50 - 80 บาท / คน / เที่ยว ขึ้นอยู่กับว่าจะลงที่อ่าวไหน หรือใช้บริการ Speedboat ราคาประมาณ 1,500 - 2,600 บาทต่อเที่ยว มีบริการตลอด 24 ชั่วโมง
ที่จอดรถท่าเรือไปเกาะเสม็ด
- ท่าเรือนวลทิพย์ 1 เป็นเรือที่ไป หาดทรายแก้ว และอ่าวน้อยหน่า ท่าเรือลุงหวัง อยู่ฝั่งตรงข้ามเทศบาล เรือจะจอดที่อ่าวลุงหวัง
- ท่าเรือประสิทธิผล ใกล้สถานที่ทำการกำนันตำบลบ้านเพ
- ท่าเรือนวลทิพย์ 2 อยู่ใกล้กับสถานีตำรวจบ้านเพ
- ท่าเรือบ้านเพ สำหรับคนที่ต้องการไป หาดทรายแก้ว อ่าววงเดือน อ่าวหวาย อ่าวช่อ อ่าวปะการัง
- ท่าเรือโชคกฤษดา ใกล้ท่าเรือบ้านเพ
- ท่าเรือเสรีบ้านเพ เรือจอดกันที่ อ่าวพร้าว หาดทรายแก้ว อ่าววงเดือน หน้าด่าน อ่าวหวาย อ่าวกิ่ว
- ท่าเรือเร็ว คนจะไปรีสอร์ท และเป็นท่าเรือส่วนตัว
- ท่าเรือโชคมานะ จอดตามหาด ตามที่ลูกค้าต้องการ
- ท่าเรือศรีบ้านเพ เรือจะไปจอดที่ อ่าวพร้าว หาดทรายแก้ว อ่าววงเดือน หน้าด่าน อ่าวหวาย อ่าวกิ่ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่
เว็บไซต์ : https://portal.dnp.go.th/
โทร : 0 - 3865 - 3034
2. เกาะสีชัง ชลบุรี
เกาะสีชังเป็นเกาะสุดฮิตที่ตั้งอยู่กลางทะเล เป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตทั้งชาวไทยและต่างชาติ มีหาดทรายและสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย รวมไปถึงวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เดินทางสะดวก เพียงแค่ 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพเท่านั้น จะพักค้างคืนหรือเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับก็เที่ยวได้แบบจุใจ
การเดินทางไปยังเกาะสีชัง
นั่งเรือสปีดโบตไปเกาะสีชัง เดินทางด้วยเรือสปีดโบตจากท่าเทียบเรือเกาะลอย ไปยังเกาะสีชัง ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 15 - 20 นาที ให้บริการแบบเช่าเหมาลำ สอบถามเพิ่มเติมหรือสำรองเรือสปีดโบต
โทร 083 - 339 - 9889 หรือ 081 - 863 - 2308
นั่งเรือเฟอร์รี่ไปเกาะสีชัง
1. เรือเฟอร์รี่จากท่าเทียบเรือเกาะลอย ถึงเกาะสีชัง
รอบเวลาเดินเรือ 07.00 น., 08.00 น., 09.00 น., 10.00 น., 11.00 น., 12.00 น., 13.00 น., 14.00 น., 15.00 น., 16.00 น. , 17.00 น. , 18.00 น.
2. เรือเฟอร์รี่จากเกาะสีชัง ถึงท่าเทียบเรือเกาะลอย
รอบเวลาเดินเรือ 06.30 น. , 08.00 น., 09.00 น., 10.00 น., 11.00 น., 12.00 น., 13.00 น., 14.00 น., 15.00 น., 16.00 น. , 17.00 น. , 18.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ : เทศบาลตำบลเกาะสีชัง โทร. 038 - 216 - 532
3. เกาะนางยวน สุราษฎร์ธานี
เกาะนางยวน เป็นเกาะขนาดเล็ก ตั้งอยู่ที่ อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีลักษณะเป็นเกาะขนาดเล็ก ๆ 3 เกาะ เชื่อมต่อกัน มีสันทรายเป็นส่วนที่สามารถเดินถึงกันได้ ทำให้กลายเป็นทะเลแหวกและชายหาด 3 แห่งขึ้นมา นอกจากนี้ เกาะนางยวนยังเป็นอีกหนึ่งจุดดำน้ำ รอบ ๆ ตัวเกาะมีปะการังน้ำตื้นและน้ำลึกที่สภาพยังสมบูรณ์และสวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมเลือกที่จะมาพักผ่อนระยะยาวกันที่นี่
การเดินทางไปยังเกาะนางยวน
ขึ้นเรือหางยาวจากท่าเรือแม่หาดและหาดทรายรี ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 20 นาที ไม่เกินครึ่งชั่วโมง หรือสามารถเป็นทัวร์ 1 วันราคาไม่เกิน 1,000 บาท ติดต่อสอบถามที่ท่าเรือได้เลย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่
เว็บไซต์ : https://www.nangyuan.com/
โทร : 0 - 7745 - 6221
4. เกาะกระดาน ตรัง
เกาะกระดาน ที่ได้จัดอันดับว่าเป็น ชายหาดที่ดีที่สุดในโลก 2023 นี้ โดย World Beach Guide ของอังกฤษ และที่นี่ยังเป็นที่เที่ยวดังในเรื่องของการจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรที่มีชื่อเสียงมาก ๆ กิจกรรมหลักของนักท่องเที่ยวที่มาเกาะกระดาน คือ การลงเล่นน้ำทะเล ดำน้ำตื้นดูปะการัง พายแพดเดิลบอร์ด / ซัพบอร์ด พายคายัก นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและลงอีกหลายจุดบนเกาะอีกด้วย
การเดินทางไปยังเกาะกระดาน : ขึ้นที่ท่าเรือควนตงกู
รถ + เรือหางยาว 450 บาท / ท่าน ขึ้นรถที่หน้าสถานีรถไฟเวลา 11.00 น. นั่งรถตู้มุ่งหน้าไปยังท่าเรือควนตงกู ขึ้นเรือหางยาวเวลา 12.00 น. เวลาในการเดินทาง 60 นาที
เหมาเรือหางยาว 1,500 บาท / ลำ เหมาเรือหางยาว ลูกค้าสามารถระบุเวลาการเดินทางเองได้ ใช้เวลาเดินทางถึงเกาะ 60 นาที ถึงชายหาดเกาะกระดาน ราคานี้สำหรับ 1 - 5 ท่าน ส่วนท่านที่ 6 เป็นต้นไป จะคิดเพิ่มท่านละ 300 บาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่
เว็บไซต์ : www.ทะเลตรัง.com/ตั๋วเรือ
โทร : 095 - 440 - 4646, 095 - 440 - 4747, 081 - 788 - 4816
5. เกาะผ้า พังงา
เกาะผ้า เกาะสุดมินิมอล จุดเช็กอินสุด Unseen ของพังงา แต่เดิมเกาะแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งต้นไม้น้อยใหญ่ และต้นมะพร้าวมากมาย แต่เมื่อเกิดอุทกภัยสึนามิในปี พ.ศ. 2547 ทำให้เกาะแห่งนี้ถูกซัดหายไป ปัจจุบันจะมองเห็นเพียงเนินทรายสีนวล
เกาะแห่งนี้จะเป็นสันดอนทรายเฉพาะเวลาที่น้ำทะเลลดลงเท่านั้น ยิ่งน้ำลดมากเท่าไรก็จะมีเนื้อที่เกาะมากขึ้น ใครโชคดี มาช่วงน้ำลดลงมาก ๆ เกาะผ้าแห่งนี้จะปรากฏเป็น 3 เกาะเล็ก ๆ พร้อมหาดทรายสีนวลตัดกับน้ำทะเลสีฟ้า เสมือนผ้าที่พริ้วไสว
การเดินทางไปยังเกาะผ้า : เกาะผ้าอยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 10 กิโลเมตร มีเรือให้บริการนำเที่ยวจากท่าเรือบ้านน้ำเค็ม ตำบลเกาะคอเขา ไปยังเกาะผ้าใช้เวลา 40 นาที ในราคาเหมาลำละ 2,500 บาท โดยสารได้ 8 คน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่
สมาคมเรือจ้างเกาะคอเขา โทร. 084 - 841 - 2367
กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนเกาะคอเขา โทร. 0980 - 202 - 742
Khaolak Wonderland Tours โทร. 081 - 187 - 4040
6. เกาะสุรินทร์ พังงา
หมู่เกาะสุรินทร์ ขึ้นชื่อในความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของเหล่าปะการังและสัตว์ใต้น้ำที่ยังคงมีสภาพสมบูรณ์ติดอันดับต้น ๆ ของโลก และนอกจากจะได้ชื่นชมความงามของปะการังแล้วยังสามารถไปสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวมอแกนที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ตามเกาะในทะเลอันดามัน ได้สร้างวัฒนธรรม ชีวิตความเป็นอยู่ที่น่าสนใจไว้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
การเดินทางไปยังเกาะสุรินทร์ สามารถเดินทางได้โดยเรือสปีดโบต มีทั้งหมด 3 ท่าด้วยกัน
- ท่าเรือ อ.คุระบุรี นั่งเรือ 50 นาที
- ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม อ.ตะกั่วป่า นั่งเรือ 1.30 ชม.
- ท่าเรือทับละมุ อ.เขาหลัก นั่งเรือ 2 ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่
เว็บไซต์ : https://portal.dnp.go.th/
เบอร์โทร : 025 - 6207 - 603, 076 - 472 - 14547
7. เกาะไข่ สตูล
เกาะไข่เป็นเกาะที่โอบล้อมด้วยน้ำทะเลสีฟ้าคราม ตัดกับหาดทรายสีขาวเนียนละเอียด เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเกาะตะรุเตาและเกาะหลีเป๊ะ จุดไฮไลต์ของเกาะไข่คือ “ซุ้มหิน” ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หินก้อนใหญ่ถูกกัดเซาะจากกระแสน้ำจนเกิดเป็นช่องที่มีลักษณะคล้ายซุ้มประตูจนกลายมาเป็นจุดเด่นของเกาะนี้
ซุ้มหินแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “ซุ้มประตูรักนิรันดร์” เพราะมีเรื่องเล่าปากต่อปากกันมาว่า หากคู่รักคู่ไหน มาลอดซุ้มหินนี้ด้วยกันแล้ว เปรียบเสมือนประตูไปสู่การครองรักกันยืนยาวเป็นนิรันดร์
การเดินทางไปยังเกาะไข่
มีเรือโดยสารจากท่าเรือปากบาราไปยังเกาะหลีเป๊ะ โดยแวะให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมเกาะตะรุเตาและเกาะไข่ด้วย โดยใช้เวลาแวะแต่ละจุดประมาณ 15 - 20 นาที ค่าโดยสาร 600 - 700 บาท แล้วแต่ช่วงเวลา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่
เว็บไซต์ : https://www.satun.go.th/travel/detail/3
อุทยานแห่งชาติตะรุเตา โทรศัพท์ / โทรสาร : 074 - 783 - 485
แสดงผล 957 ครั้ง