7 พิกัด ชมดอกนางพญาเสือโคร่งในไทย
ช่วงฤดูหนาวนี้ ภาคเหนือของประเทศไทยจะเต็มไปด้วยความงดงามของไอหมอกและธรรมชาติ โดยเฉพาะ “ดอกนางพญาเสือโคร่ง” ที่จะบานเต็มที่ในช่วงกลางเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ใครที่กำลังวางแผนเดินทางไปเที่ยวในช่วงนี้ ข่าวสารท่องเที่ยว ททท. มาแจก “7 พิกัด ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง” ให้ทุกคนได้ไปชมความสดใสของดอกไม้สีชมพูสุดโรแมนติกที่ทำให้หุบเขาในทุกพื้นที่ดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
1. ภูลมโล จังหวัดพิษณุโลก-เลย
ภูลมโล อยู่ในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นยอดเขาที่สูง 1,664 เมตร และเป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทย ดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานในกลางเดือนมกราคม-ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ทำให้ภูลมโลกลายเป็นแลนด์มาร์กยอดนิยมในช่วงฤดูหนาวที่หลายคนมักมาสัมผัส
การไปชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ภูลมโลปัจจุบันไม่สามารถนำรถส่วนตัวขึ้นไปได้ เพราะถนนชันและขรุขระรวมถึงมีเส้นทางที่แคบในบางพื้นที่ จึงต้องใช้บริการรถของเจ้าหน้าที่เท่านั้น มีค่าบริการ 100 บาท/คน จะไปกับเพื่อน ครอบครัวหรือจะจอยกรุ๊ปกับคนอื่นก็ได้เช่นกัน ส่วนใครต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถเหมาได้ในราคา 1,000 บาท เจ้าหน้าที่จะพาไปแวะชมทั้งหมด 3-4 จุดด้วยกัน รับรองเลยว่าได้ชมดอกนางพญาเสือโคร่งแบบจุใจแน่นอน
ข้อแนะนำสำหรับการขึ้นภูลมโล
- รถที่จะพาขึ้นไปเป็นรถกระบะโฟร์วิลระหว่างทางเป็นดินแดง ดินลูกรัง มีฝุ่นหนา แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัย แว่นตา หมวกหรือเสื้อกันฝนไว้คลุมเพื่อป้องกันฝุ่นด้วยน้า
- ติดต่อบริการรถนำเที่ยวได้ ดังนี้
- อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก 096 020 0992
- ชมรมคนรักบ้านร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก 086 205 9376
- ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนกกสะทอน จังหวัดเลย 065 558 3607
2. บ้านร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก
บ้านร่องกล้า เป็นหมู่บ้านที่มีความสวยงามและเป็นที่รู้จักในชื่อ "หมู่บ้านสีชมพู" เนื่องจากมีการปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งตามตรอกซอกซอยของหมู่บ้าน จึงทำให้หมู่บ้านนี้เต็มไปด้วยสีชมพูสวยงาม จุดชมวิวที่แนะนำภายในหมู่บ้านร่องกล้าจะมีทั้งหมด 3 จุดด้วยกัน ได้แก่ ลานกางเต๊นท์ ต้อเซี๊ย ไร่ผาชมพูและวัดป่าบ้านร่องกล้า
นอกจากนี้ที่หมู่บ้านร่องกล้ายังมีโฮมสเตย์และลานกางเต๊นท์บริการด้วย เพื่อน ๆ ที่ไปพักก็สามารถตื่นเช้า ๆ มาชมพระอาทิตย์ขึ้น พร้อมสัมผัสบรรยากาศภายในหมู่บ้านที่เงียบสงบได้เลย แล้วจะเดินเที่ยวชมตลาดนัดของชาวบ้านที่มีพืชผลทางการเกษตรวางขายเรียงรายกันในราคาที่ย่อมเยาว์หรือจะแวะดื่มกาแฟ ทานอาหารภายในหมู่บ้านก็ฟินไปอีกแบบ
การเดินทางมายังบ้านร่องกล้า ต้องเข้าทางเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าที่อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานออกไปประมาณ 8 กิโลเมตร ก็จะเจอกับบ้านหมู่บ้านที่มีดอกนางพญาเสือโคร่งออกดอกสีชมพูต้อนรับอยู่ริมสะพาน และเมื่อขับขึ้นเนินหน้าหมู่บ้านมาก็จะถึงลานจอดรถของหมู่บ้านร่องกล้าเลย
- ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
- เปิดวัน/เวลา : ทุกวัน 06:00-18:00 น.
- ค่าบริการเข้าอุทยาน : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
- รถยนต์ 30 บาท รถจักรยานยนต์ 20 บาท รถจักรยาน ฟรี
- เบอร์โทร : อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 096 020 0992
- Facebook : อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
3. ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงขุนวาง จังหวัดเชียงใหม่
สถานีเกษตรหลวงขุนวาง เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญในการพัฒนาเกษตรกรรมในพื้นที่สูง โดยเริ่มต้นจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อส่งเสริมการปลูกพืชที่มีรายได้สูงแทนการปลูกฝิ่น มีการดำเนินงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 โดยมุ่งเน้นการปลูกพืชผักและไม้ผลที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศและดินในพื้นที่
การไปเยือนยังศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) ไม่เพียงแต่จะได้ชมความงามของดอกนางพญาเสือโคร่งที่บานสะพรั่งเท่านั้น แต่ยังมีจุดชมวิวอื่น ๆ ให้เราได้ไปแวะชมอีกด้วย อย่างอุโมงค์พญาเสือโคร่ง เส้นทางเดินยาวที่เต็มไปด้วยต้นนางพญาเสือโคร่งสีชมพู บรรยากาศสุดโรแมนติกและสะพานซากุระ
จุดถ่ายรูปยอดนิยมที่กำลังเป็นกระแสในโซเชียลช่วงต้นปี ซึ่งมีค่าธรรมเนียมเข้าชมเพียง 40 บาทเท่านั้น
นอกจากนี้ เรายังสามารถกางเต็นท์พักแรมได้ที่นี่ โดยมีค่าบริการ 200 บาท/ 1 คน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ลานจอดรถ ห้องน้ำ และร้านอาหารให้บริการด้วย
ที่อยู่ : ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง) ม.10 ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
เปิดวัน/เวลา : ทุกวัน 08:30-16:30 น.
เบอร์โทร : ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง) 089 021 8989
Facebook : ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง)
4. สวนลุงเปา จังหวัดเชียงใหม่
สวนลุงเปาในจังหวัดเชียงใหม่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจในช่วงฤดูหนาวนี้มาก ๆ เพราะเป็นช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานสะพรั่งเลย
สวนลุงเปาเป็นสวนเล็ก ๆ ที่ถูกปรับเปลี่ยนจากพื้นที่การเกษตรมาเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยมีการปลูกดอกนางพญาเสือโคร่งมากว่า 16 ปี และปัจจุบันได้เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวเมื่อเข้ามาชมแล้ว ดอกนางพญาเสือโคร่งที่นี่มีลักษณะเตี้ย ทำให้ผู้เข้าชมสามารถถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิดและสะดวกสบาย สายคอนเทนต์ถูกใจแน่นอน
- ที่อยู่ : สวนลุงเปา ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
- เบอร์โทร : สวนลุงเปา 082 188 0978
- ค่าบริการ : 50 บาท/คน
- สุนัขและแมวเข้าได้
5. โรงเรียนบ้านขุนกลาง จังหวัดเชียงใหม่
บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านขุนกลางมีต้นนางพญาเสือโคร่งปลูกอยู่หลายต้น ตั้งอยู่บนถนนทางหลวงชนบทสายบ้านขุนกลาง - ขุนวาง ช่วง กม.0-1 ตลอดริมทางเต็มไปด้วยที่เที่ยวชมดอกนางพญาเสือโคร่งหลายแห่งด้วยกัน
ด้านหน้าโรงเรียนจะมีการจัดเตรียมพื้นที่สำหรับนักท่องเที่ยวให้สามารถถ่ายรูปและสัมผัสกับความงามของดอกไม้ได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงมีร้านค้าไว้บริการเครื่องดื่มและอาหารตลอดเส้นทางด้วย
- ที่อยู่ : โรงเรียนบ้านขุนกลาง ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
6. สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน จังหวัดเชียงใหม่
ขุนช่างเคี่ยนอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 32 กิโลเมตร โดยมีเส้นทางเดียวกับพระธาตุดอยสุเทพ มีความสูงประมาณ 1,200-1,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดปี แน่นอนว่าช่วงเวบาที่เหมาะแก่การมาชมดอกนางพญาเสื้อโคร่งก็คือช่วงกลางเดือนมกราคม-ต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
ขุนช่างเคี่ยน ยังเป็นสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรหรือเป็นสถานีวิจัยเกี่ยวกับพืชเมืองหนาว อย่าง กาแฟและไม้ผลเมืองหนาวอื่น ๆ ทุกคนสามารถไปเรียนรู้เกี่ยวกับการเกษตรในพื้นที่สูงได้ ทั้งยังมีวัฒนธรรมของชาวม้ง ที่มีวิถีชีวิตเรียบง่ายและยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมไว้จนถึงปัจจุบันด้วย
-
ที่อยู่ : ขุนช่างเคี่ยน ถนนแม่บัวมุง ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
-
เปิดวัน/เวลา : ทุกวัน เวลา 08:00-16:30 น.
-
เบอร์โทร : สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน 053 222 014
-
อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย 053 210 244
-
Facebook : อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
7. ขุนแม่ยะ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ช่วงกลางเดือนมกราคม-ต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานสะพรั่งทั่วทั้งดอย ทำให้ที่นี่ได้รับฉายาว่า "ดอยสีชมพู" ใครที่อยากไปสัมผัสบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก ห้ามพลาดเลย !
นอกจากนี้ทุกคนยังสามารถนำเต็นท์ส่วนตัวไปกางได้ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ได้ด้วย โดยทางขุนแม่ยะจะมีเพียงห้องน้ำไว้บริการควรเตรียมอาหารและน้ำดื่มไปเอง เนื่องจากบริเวณนี้ไม่มีร้านค้าใหญ่ มีเพียงซุ้มร้านค้าเล็ก ๆ ของชุมชนเท่านั้น ถ้าใครจะไปก็ลองติดต่อสอบถามอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังก่อนได้เลยค่ะ
- ที่อยู่ : ดอยขุนแม่ยะ ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- เปิดวัน/เวลา : ทุกวัน 06:00-18:00 น.
- เบอร์โทร : อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง 063 643 1744
- Facebook : อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง