ทีทีเอ็มพลัส ปีที่ 13 เวทีการค้า B2B โชว์ศักยภาพการท่องเที่ยวไทยและลุ่มน้ำโขง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมจัดงาน ไทยแลนด์ ทราเวล มาร์ท (ทีทีเอ็ม) พลัส 2014 ระหว่างวันที่ 4-6 มิถุนายน 2557 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อสานความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการท่องเที่ยวสู่ประเทศภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และรักษาศักยภาพการจัดงานด้านเทรดโชว์นานาชาติที่ยิ่งใหญ่ประจำปี จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 เพื่อเป็นเวทีหลักสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการโดยเฉพาะในแบบ Business to Business หรือ B2B ได้เจรจาทางธุรกิจโดยอาศัยความร่วมมืออย่างแข็งขันจากภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเข้าร่วมนำเสนอสินค้าบริการภายใต้ธีม “Experience with us” ซึ่งเป็นแนวคิดการจัดงานในปีนี้
ทั้งนี้ มีจำนวนการตอบรับของผู้ขายในประเทศ รวมทั้งผู้ประกอบการจากประเทศเพื่อนบ้านในแถบลุ่มน้ำโขง มีจำนวนรวม 448 บูธ (403 หน่วยงาน) คิดเป็น 77% เป็นผู้ขายเดิม ส่วนผู้ซื้อจากต่างประเทศประมาณ 300 ราย (45 ประเทศ) โดย 50 % เป็นผู้ซื้อรายใหม่ อาทิ ชิลี บราซิล บัลแกเรีย โรมาเนีย แอฟริกาใต้ เบลารุส และ คาซัคสถาน ขณะที่ผู้ซื้อที่เป็น Top 5 จากตลาดหลักเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ได้แก่ จีน สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย อินเดีย และ แอฟริกาใต้
สำหรับการจัดแสดงสินค้าไฮไลท์ภายในงาน ททท. ได้จัดสรรพื้นที่ แบ่งเป็น 4 กลุ่มสินค้าหลัก ประกอบด้วย พื้นที่สำหรับนำเสนอสินค้าประเภทการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (Ecotourism) พื้นที่สำหรับนำเสนอสินค้าประเภทสุขภาพและความงาม (Health & Wellness) พื้นที่นำเสนอสินค้าสำหรับคู่แต่งงาน (Wedding & Honeymoon) และพื้นที่ประเภทสินค้าที่เน้นความเป็นไทย (Thainess) พร้อมทั้งพื้นที่ทั่วไปจัดสรรบูธเสนอขายสินค้าบริการด้านท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจของหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวจากแต่ละประเทศในกลุ่ม GMS (ลาว กัมพูชา เมียนมาร์) กลุ่มธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท บริษัทนำเที่ยวและตัวแทนจำหน่ายด้านการท่องเที่ยว สมาคมด้านการท่องเที่ยว สวนสนุก สนามกอล์ฟ และธุรกิจบันเทิง ฯลฯ
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการตอกย้ำการรับรู้ด้าน “ความเป็นไทย” ททท. ได้จัดนำเที่ยวเพื่อเป็นอภินันทนาการให้แก่คณะผู้ซื้อจากต่างประเทศ โดยจัดทำรายการนำเที่ยวก่อนเข้าร่วมงานที่สะท้อนและสื่อถึงวัฒนธรรม วิถีไทยอย่างเด่นชัดในหลากหลายเส้นทางให้เลือก เช่น พระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เยี่ยมชมย่านการค้าดั้งเดิมที่ยังคงมีสีสัน เช่น เยาวราช สำเพ็ง พาหุรัด ปากคลองตลาด เรียนรู้ศิลปะการปรุงอาหารไทย และกิจกรรมฟื้นฟูสุขภาพด้วยศาสตร์แผนไทย สิ่งเหล่านี้จะช่วยตอบโจทย์นักท่องเที่ยวในยุคปัจจุบันที่ไม่เพียงแค่ มาพักผ่อนวันหยุดเท่านั้น แต่ยังมีนักท่องเที่ยวอีกจำนวนมากที่คงแสวงหาสิ่งใหม่ ที่พร้อมจะเรียนรู้ โดยการสัมผัสและเข้าถึง เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ความเป็นไทย อีกทั้งภาพบรรยากาศจากพื้นที่จริงระหว่างการท่องเที่ยวในเมืองไทยของกลุ่มผู้ซื้อดังกล่าว จะช่วยย้ำในการสื่อสารสร้างความมั่นใจว่าสถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยวภายในบ้านเรายังคงเป็นปกติ
แสดงผล 1312 ครั้ง