ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวเทศกาล

ททท. เปิดคูหาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทย พร้อมเชิญภาคเอกชนที่ทำตลาดอินบาวดน์กว่า 50 รายเข้าร่วมส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวประจำปีของสหราชอาณาจักร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-6 พฤศจิกายน 2557 เพื่อขยายฐานตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักจากภูมิภาคยุโรป ให้กลับมาท่องเที่ยวประเทศไทยหลังจากที่สถานการณ์ความเชื่อมั่นภายในประเทศไทยดีขึ้นมากตามลำดับ

เช้าวันนี้ (3 พฤศจิกายน) ณ เอ็กเซล เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ กรุงลอนดอน นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายธวัชชัย อรัญญิก ผู้ว่าการ ททท. คณะผู้บริหาร และคณะกรรมการ ททท.  เข้าร่วมงาน  World Travel Market (WTM) 2014  และเป็นประธานในการเปิดคูหาประเทศไทย (Thailand Stand) หมายเลข AS400  โดยสำรองพื้นที่ขนาด  420 ตารางเมตร ตกแต่งบรรยากาศตามแนวคิด  Thainess(ท่องเที่ยววิถีไทย) มีกิจกรรมสาธิตสปาไทย พื้นที่ให้ข่าวสารการท่องเที่ยว ไอที โซนให้ข้อมูลสารสนเทศ ผ่านเว็บไซต์ท่า www.tourismthailand.org ที่ดีไซน์ขึ้นใหม่  รวมถึงแนะนำแอพลิเคชั่น Yours ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง ททท. บริษัท วี บิลด์ แอนด์ โอเปอเรต จำกัด และบริษัท โกลเม็กซ์ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเพิ่มช่องทางโซเชียลมีเดียในการทำตลาด และเชิญหน่วยงานพันธมิตรได้แก่ เมืองพัทยา สายการบินบางกอกแอร์เวยส์  ศิลป์แผ่นดิน สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเกาะเต่า เกาะสมุย เกาะพะงัน ร่วมนำเสนอข้อมูลสินค้าบริการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดสรรพื้นที่โต๊ะเจรจาซื้อขายทางธุรกิจ ให้กับผู้ประกอบการฝั่งไทยที่เป็นผู้ขาย แบ่งเป็นโรงแรม 43 ราย บริษัททัวร์ 4 รายและอื่นๆ อีก 6 หน่วยงาน ได้แก่สมาคมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (Thai Ecotourism and Adventure Travel Association – TEATA), LJR CONSULTANCY, MBK Hotel & Tourism,   Paragon Car Rental, RSU Healthcare, The Unique Collection of Hotels & Resorts ได้พบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อในต่างประเทศ

งาน WTM เป็นงานส่งเสริมการขายที่เปิดโอกาสให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากทั่วโลก ประกอบด้วย องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติจากประเทศต่าง ๆ ธุรกิจโรงแรม บริษัทนำเที่ยว สายการบิน บริษัทเช่ารถ และธุรกิจบริการท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้นำเสนอขายสินค้าทางการท่องเที่ยว  การเข้าร่วมงานในส่วนของประเทศไทยโดย ททท. ได้เข้าร่วมเป็นปีที่ 34 จึงเป็นการรักษาตำแหน่งทางการท่องเที่ยว ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยในกลุ่มประเทศเอเชีย พร้อมทั้งใช้เวทีนี้ในการแสดงศักยภาพความพร้อมทางการท่องเที่ยว  เป็นช่องทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากประเทศไทย  โดยเฉพาะการสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศให้เกิดความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง