ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวกิจกรรม

ททท. เชิญสื่อมวลชนจาก ทั่วโลก ร่วมอัพเดทสินค้าท่องเที่ยวใหม่ของไทย ในงาน TTM+ 2015

    บ่ายวันนี้ (4 มิถุนายน 2558)    นางจุฑาพร  เริงรณอาษา  รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา  และรักษาการผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนจากทั่วโลก จำนวนกว่า 100 ราย เพื่อสื่อสารความเคลื่อนไหวด้านตลาดการท่องเที่ยวของไทยและสร้างการรับรู้ผ่านสื่อมวลชนไปยังกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เดินทางมายังประเทศไทยในฐานะผู้ซื้อ (Buyers)  ภายในงาน Thailand Travel Mart Plus the Greater Mekong Subregion 2015 (TTM+)   ณ ห้องฟีนิกซ์ 2-3 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

     นางจุฑาพร  กล่าวว่า “งาน TTM+ 2015 ในปีนี้มี ผู้ซื้อ (Buyers) กว่า 320 รายจาก 50 ประเทศทั่วโลก เป็นผู้ซื้อรายใหม่จำนวน 145 ราย มีผู้ขาย (Sellers) จำนวน 374 ราย เป็นผู้ขายรายใหม่ 80 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย ได้แก่  บริษัทนำเที่ยว  โรงแรม รีสอร์ท  สายการบิน  สนามกอล์ฟ   สปา และสถานบันเทิง  รวมถึงองค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวจาก 5 ประเทศ ได้แก่  ลาว กัมพูชา      เมียนมาร์  มณฑลยูนนาน และเวียดนาม  ร่วมเสนอสินค้าการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง”  

     “ในปี 2558 นี้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก  นับตั้งแต่วันที่         1 มกราคม - 25 พฤษภาคม 2558  มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทยจำนวน 11.95 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 19 สร้างรายได้ถึง 578,000 ล้านบาท โดยช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ นักท่องเที่ยวจากจีน ยังคงครองตำแหน่งลูกค้ากลุ่มสำคัญของประเทศไทย มีจำนวน 2.03 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 96 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา รองลงมาคือนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย (8.9 แสนคน) เกาหลี (3.7 แสนคน) ญี่ปุ่น (3.6 แสนคน) และรัสเซีย (3.2 แสนคน) โดย ททท. คาดว่าเมื่อสิ้นปี 2558 จะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาไทยทั้งสิ้น 28 ล้านคน สร้างรายได้ 1.4 ล้านล้านบาท”

     สินค้าท่องเที่ยวหลักที่ ททท. ยังคงเน้นที่จะรองรับกับตลาดนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจพิเศษ  ได้แก่

    - Wedding & Honeymoon นับเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับคู่รักที่จะเดินทางมา  เพื่อแต่งงานและฮันนีมูน  เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมและความหลากหลายของการให้บริการต่าง ๆ   ที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดนี้ได้  ซึ่งในปีที่ผ่านมา ททท. เชิญคู่รักจากยุโรป เกาหลีใต้ และไต้หวันเดินทางมาจัดพิธีแต่งงานพร้อมเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งสร้างความประทับใจให้ผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก  

     - Health & Wellness   ซึ่งประเทศไทยได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศเพื่อเข้ารับบริการการดูแลสุขภาพจากโรงพยาบาลชั้นนำต่างๆ จำนวนถึง 2 ล้านคนต่อปี  

     - Culinary Tourism  นับเป็นสินค้าท่องเที่ยวสำคัญที่สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวเสมอมา รสชาติของอาหารไทย เป็นที่รู้จักในกลุ่มชาวต่างชาติเป็นอย่างดี  ด้วยวัตถุดิบและส่วนผสมที่ลงตัว ทำให้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น     

     - Shopping    ความหลากหลายด้านแหล่งช้อปปิ้ง ที่รองรับทุกความต้องการของนักท่องเที่ยว อาทิ สยามพารากอน    เซ็นทรัลเวิลด์   เซ็นทรัลเอ็มบาสซี  ไปจนถึงตลาดนัดจตุจักร  ตลาดนัดประตูน้ำ  และเยาวราช  เป็นต้น   

     - Green Tourism  ซึ่ง ททท. มุ่งผลักดันแนวคิดการท่องเที่ยวยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันนักท่องเที่ยวหันมาสนใจการเดินทางในรูปแบบใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และเป็นเทรนด์ที่วงการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลกให้ความสำคัญอย่างมาก   

     นอกจากนี้  ททท. ยังนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจ ได้แก่  River Cruise Tourism,   Sports Tourism,  Yachting Tourism,  Cruise Tourism   รวมถึงการนำเสนอความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวที่      เดินทางผ่านท่าอากาศยานนานาชาติ ได้แก่  การเพิ่มสมรรถนะในการรองรับผู้โดยสารให้มากถึง 80 ล้านคน ภายในปี ค.ศ.  2020   การปรับปรุงท่าอากาศยานดอนเมืองให้รองรับผู้โดยสารมากถึง 30 ล้านคนภายในปีนี้  รวมถึงการขยาย ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตให้รองรับผู้โดยสาร 12.5 ล้านคน ในปี ค.ศ.  2016   

     ในโอกาสเดียวกัน ความร่วมมือใน AEC ที่จะเปิดตัวปลายปี 2558 นั้น  ขณะนี้  สะพานมิตรภาพ          ที่เชื่อมต่อไทย – ลาว  อาทิ เส้นทางหนองคาย – เวียงจันทน์  มุกดาหาร – สะหวันนะเขต  นครพนม – ท่าแขก และ  เชียงราย – เชียงของ ซึ่งช่วยให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวไทย – ลาวมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น 

     เนื่องจากใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 3 – 4 ชั่วโมงเท่านั้น   และหลังจากนี้ ททท. ยังเตรียมเปิดตัวโครงการ  “Two Kingdoms One Destination” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทย กับประเทศในอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ได้แก่ เมียนม่าร์  กัมพูชา ลาว และเวียดนาม 

     นอกจากนี้  ภายในงาน TTM+ 2015 ททท. ได้จัดบรรยายวิชาการเพื่อต่อยอดทางการตลาด โดยเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ร่วมให้ความรู้ใน  Forum for Buyers และ Sellers  ในหัวข้อหลักคือ  “Amazing Thailand – Discover Thainess”  ได้แก่  Mr. Matthew  Zatto  ในหัวข้อ Uniqueness is the Key   นายสมศักดิ์ บุญคำ ผู้บริหารระดับสูง บริษัท โลเคิล อไลค์ จำกัด  ในหัวข้อ Meaningful Experience to Discover   Mr. James  Bell  ในหัวข้อ  Thainess for Niche Market  และ  ดร. พลเดช ธีรภาพไพสิฐ  อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ในหัวข้อ  From Thai cuisine to Thai rice route  

     สำหรับในวันที่ 5 มิถุนายน 2558 ททท. ได้เชิญกลุ่ม Trade visitors จากประเทศมุสลิมกว่า   100 ราย  เข้าร่วมสังเกตการณ์ในงาน TTM+ 2015 อาทิ  อินโดนีเซีย  มาเลเซีย  บรูไน   จอร์แดน  อียิปต์  ตุรกี โมรอคโค  และอัลจีเรีย เป็นต้น พร้อมเตรียมเปิดตัว “Thailand Muslim Friendly Destination”  ซึ่งเป็น Mobile application เพื่อความสะดวกในการค้นหาข้อมูลโรงแรมที่พัก  ร้านอาหารฮาลาล เป็นภาษาอารบิก  อังกฤษ และภาษาไทย

แสดงผล 1296 ครั้ง