ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวอื่นๆ

ครม. อนุมัติร่างยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย พ.ศ. 2558-2560 เร่งเดินหน้ายุทธศาสตร์เขตพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวแหล่งวัฒนธรรมอีสานใต้ใช้กลยุทธ์ASEAN Connect เชื่อมโยง 5 ประเทศสร้างท่องเที่ยวคุณภาพในอาเซียนให

 

สถานการณ์การท่องเที่ยว

1)      จำนวนนักท่องเที่ยววันที่ 1-31 กรกฎาคม 2558 มีจำนวน 2,641,998 คนขยายตัวร้อยละ37.99 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาโดยนักท่องเที่ยว 2 อันดับแรกคือจีนและมาเลเซีย 

2)      รายได้จากกาท่องเที่ยวนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 จนถึงปัจจุบัน (31 ก.ค. 58) มีรายได้จากการท่องเที่ยวแล้ว 1.18 ล้านล้านบาทขยายตัวร้อยละ 23.12 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

3)      จำนวนนักท่องเที่ยวในท่าอากาศยานหลัก 4 แห่ง ในวันที่ 1-31 กรกฎาคม มีสัดส่วนรวมกันประมาณร้อยละ 80 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดของประเทศ มีจำนวน 2,160,866 คน มีการขยายตัวร้อยละ 49.37 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะท่าอากาศยานดอนเมืองที่ขยายตัวถึงร้อยละ 81.3 รองลงมาได้แก่ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ สุวรรณภูมิ และภูเก็ต ที่ขยายตัวร้อยละ 69.6 ร้อยละ 48.2 และร้อยละ 24.4 ตามลำดับ

นางกอบกาญจน์  วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า มติที่ประชุม ครม. เมื่อวานที่ผ่านมา ได้เห็นชอบร่างยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยพ.ศ. 2558-2560 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเร่งให้ทุกหน่วยงานเดินหน้าอย่างเต็มที่ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ  สร้างรายได้แก่ ประเทศอย่างยั่งยืน เป็นการพัฒนาทุกมิติ ทั้งด้าน เศรษฐกิจ  สังคม การเมือง และสิ่งแวดล้อม ที่นำไปสู่การพัฒนาที่สมดุล ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ตามเป้าหมาย ส่วนแผนกลยุทธ์การพัฒนาเชิงพื้นที่ 5 เขตพัฒนาการท่องเที่ยว  จะนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ในสัปดาห์หน้า สำหรับ ASEAN Connect ซึ่งเป็นกลยุทธ์หนึ่ง ในแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย พ.ศ. 2558-2560  นั้นได้มีการเดินหน้าไปแล้วในหลายส่วน เช่น การประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยว ACMECS

นาย อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวถึงการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยว ACMECS กลุ่มลุ่มแม่น้ำอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ซึ่งประกอบด้วยประเทศที่มีชายแดนติดกันได้แก่ เมียนมาร์-กัมพูชา-ลาว-ไทย-เวียดนาม เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ ให้เชื่อมโยง และเติบโตยั่งยืน ร่วมกันที่กรุงเนปิดอร์ ประเทศเมียนมาร์ ระหว่างวันที่ 28-29 ก.ค.2558 ที่ผ่านมาว่าเป็นการประชุมรัฐมนตรีการท่องเที่ยวครั้งที่ 2 ซึ่งมีสาระสำคัญด้วยกัน 7 เรื่อง เพื่อวางแผนการทำงาน (Action Plan)ระหว่างปี 2016 ถึง 2018 มีเป้าหมายเดียวกันคือ มุ่งเน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ 7 ด้าน เป็นสำคัญ

1. Tourism Market Promotionการส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ยว 5 countries 1destination มีผู้รับผิดชอบคือ ไทย &เวียดนาม

2. Product Linkageความเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว โดย กัมพูชา

3. Information Exchangeการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการท่องเที่ยว ซึ่งมีเจ้าภาพเมียนมาร์ เป็นผู้ดำเนินการ

4. Tourism Product Developmentsการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว โดยเมียนมาร์ รับผิดชอบ

5.Human Resources Developmentการพัฒนาคุณภาพ ไทย &เวียดนาม จะร่วมกันวางแผน

6. Tourism Safetyให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัย เวียดนาม เป็นเจ้าภาพ

7. Private Sectors Involvementการให้เอกชนมีส่วนร่วม โดยลาวและเวียดนาม จะนำไปวางแผนกลยุทธ์

 

นางกอบกาญจน์ กล่าว่าสำหรับประเทศไทยเราได้ดำเนินงานคืบหน้าไปมากแล้วโดยมีความร่วมมือระดับทวิภาคี ระหว่างไทย-เมียนมาร์  ในการจัด FAMTrip นำผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางไปทำตลาดยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของทั้งสองประเทศซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก  และเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และประชาคมต่างๆ อาทิ หอการค้าจังหวัด กลุ่มผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม พบว่าเสน่ห์จ.ศรีสะเกษ มีจุดเด่นมากมายที่ทำให้ ASEAN Connectเห็นภาพชัดเจนขึ้นอย่างครบครันน่าสนใจ เพราะที่นี่เป็นเส้นทางอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อเชื่อมโยงไปยังอาเซียนได้โดยง่าย คือ เป็นเส้นทางรถยนต์ที่สั้นที่สุดจากชายแดนประเทศไทยไปยังเสียมเรียบ ด้วยระยะทางเพียง135 กม. ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้จัดเส้นทางเอาไว้แล้วคือ "เที่ยว 2 ช่อง 2 แผ่นดิน" เป็นเส้นทางท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศระหว่างไทย-กัมพูชา จาก 2 ด่าน คือ

1) ด่านช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ  2)ด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ โดยมีเส้นทางที่น่าสนใจเริ่มจากขึ้นผามอดินแดงชมเขาพระวิหาร นมัสการพระวัดป่ามหาเจดีย์แก้ว ชมบ้านขุนอำไพพาณิชย์ อาคารเก่าแก่โบราณสถานของชาติ จากนั้นขับรถผ่านช่องสะงำ ไปเที่ยวชมนครวัดนครธม มรดกโลก ณ เสียมเรียบ กัมพูชา และเดินทางกลับมาทางช่องจอม จ.สุรินทร์ชมปราสาทต่างๆในจ.สุรินทร์ หรือแวะไปยังบุรีรัมย์ได้อีกด้วย(สอบถามข้อมูลโครงการตามรอยอารยธรรมขอม “เที่ยว 2 ช่อง ท่อง 2 แผ่นดิน” ได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุรินทร์ โทร. 044-514447-8)

การท่องเที่ยวแบบเขตพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวจะเป็นทิศทางอนาคตของการท่องเที่ยวไทย เพราะเราเน้นพูดถึงอารยธรรมทั้งล้านนา อีสานใต้ เอกลักษณ์อันดามันและพัฒนาสินค้าท่องเที่ยวตามความสนใจเฉพาะไปพร้อมกัน (นิชมาร์เก็ต) ไม่ว่าจะเป็น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (เมดิคอลแอนด์เวลเนส) และท่องเที่ยวเชิงกีฬา  หรือการท่องเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์ทางทะเลและป่าเขามรดกโลก เพื่อนำไปสู่การเพิ่มเรื่องเล่า  แชร์ ส่งต่อความประทับเพื่อต่อยอดการทำการตลาดบนโลกออนไลน์ แบบ ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง เพราะในรูปแบบการท่องเที่ยวและเพิ่มการใช้จ่าย พักผ่อนแบบอยู่ยาวมากขึ้นจะช่วยทำให้เกิดการกระจายรายได้และเม็ดเงินลงสู่ประชาชนในพื้นที่ได้" นางกอบกาญจน์ กล่าว

นางกอบกาญจน์ กล่าว่า จังหวัดศรีสะเกษมีเสน่ห์อีสานใต้คือสามารถเชื่อมโยงสร้างเป็นเส้นทางอารยธรรมตามรอยประวัติศาสตร์ ปราสาทโบราณ บนฐานความเชื่อมโยงประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านกัมพูชาได้เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าใจวิถีไทย วิถีประชาคมอาเซียน ในรูปแบบเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์และชาติพันธุ์ที่มีหลากหลายในพื้นที่ โดยจากทิศทางความร่วมมือของอาเซียนในมิติของการท่องเที่ยวมีความชัดเจนมากขึ้นเป็นลำดับจากนี้เราจะไม่ได้แข่งขันกันแต่เราจะเชื่อมโยงและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวร่วมกันวางรากฐานให้อาเซียนจะเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนนี่คือเป้าหมายสูงสุดของ ASEAN Connectในอนาคต

ทั้งนี้นางกอบกาญจน์ กล่าวย้ำด้วยว่าขอเชิญชวนคนไทยมาปั่นจักรยานประวัติศาสตร์ “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่”เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม 2558 นี้ตั้งแต่เวลา 15.00 น. จากลานพระราชวังดุสิต ถึงกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ไป-กลับ รวมระยะทาง 43 กิโลเมตร

ในส่วนของกระทรวงฯจะมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ  บริเวณพื้นที่สนามเสือป่าอีกด้วย โดยนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิดแห่งการรวมพลังของทุกภาคส่วน และประชาชนชาวไทยทั้ง 77 จังหวัด ก่อเกิดขึ้นเป็นเส้นทางที่ล้วนแล้วแต่มีเป้าหมาย ร่วมในการเป็น "เส้นทางแห่งประวัติศาสตร์ ปั่นเพื่อแม่" แม่ของแผ่นดิน โดยเรียงร้อยถ่ายทอดลำดับเรื่องราวผ่านนิทรรศการ 8 เรื่อง ได้แก่

นิทรรศการที่ 1 เส้นทางแห่งความรัก และความผูกพัน นำเสนอพระฉายาลักษณ์ที่แสดงถึงความรัก ความผูกพัน ความห่วงใย ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีต่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งเป็นพระฉายาลักษณ์พระราชทานหาชมได้ยาก

นิทรรศการที่2 เส้นทางแห่งคำสอน ก่อเกิดพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรไทยทุกคนนำเสนอพระราโชวาท ที่เปรียบเสมือนคำสอนของพระองค์ที่ทรงตรัสต่อผู้มาเข้าร่วมงานในวาระต่างๆ รวมถึงคำขวัญพระราชทาน เนื่องในวันแม่แห่งชาติในแต่ละปี ผ่านซุ้มเส้นทางเดินที่มากล้นไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณ

นิทรรศการที่ 3 เส้นทางแห่งสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ถ่ายทอดเรื่องราว และพระฉายาลักษณ์การเสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงประกอบพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ อาทิ โครงการศิลปาชีพ โครงการด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โครงการที่เกี่ยวกับการศึกษา การทำนุบำรุงศาสนา เป็นต้น ผ่านบอร์ดนิทรรศการรูปทรงโคมดอกไม้สัญลักษณ์ของการถวายพระพร เพื่อถวายเป็นพระราชสดุดีแม่ของแผ่นดิน

นิทรรศการที่ 4 เส้นทางร้อยรวมใจแห่งความภักดี เป็นเส้นทางจุดศูนย์รวมของประชาชนทุกหมู่เหล่าให้ได้สัมผัสกับตราสัญลักษณ์ Bike for Mom ในรูปแบบ 360 องศาที่โดดเด่น อันแสดงถึงสัญลักษณ์แห่งการรวมใจที่เราคนไทยมีต่อแม่ของแผ่นดิน

นิทรรศการที่ 5 เส้นทางประวัติศาสตร์ บันทึกไว้ในความทรงจำ เป็นเส้นทางที่จะได้สัมผัสภาพ แสง สี เสียง ผ่านเรื่องราวอันเป็นจุดเริ่มต้นของกิจกรรม  Bike for Mom จนถึงการแสดงพลังการขับขี่จักรยานจากทั่วทุก สารทิศในการ"ปั่นเพื่อแม่" รวมแล้วระยะทางกว่า 2,000 กิโลเมตร ถูกบันทึกและถ่ายทอดผ่านจอ LED ขนาดใหญ่ เป็นเส้นทางประวัติศาตร์ที่จะต้องจารึกไว้ตลอดไป

นิทรรศการที่ 6 เส้นทางจักรยาน สู่กิจกรรมปั่นเพื่อแม่ ซึ่งสมเด็จพระบรมโอรสธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ทรงเป็นผู้นำในการทรงจักรยาน ถวายเป็นพระราชสดุดีในครั้งนี้ โดยนิทรรศการถูกถ่ายทอดทรงจักรยาน ตั้งแต่ อดีตจนถึงปัจจุบันที่หาชมได้ยากยิ่ง นอกจากนี้ด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระราชทานจักรยานส่วนพระองค์ให้ประชาชนได้ชมอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

นิทรรศการที่ 7 เส้นทางจักรยาน เส้นทางแห่งความสำเร็จ นำเสนอเรื่องราวความสำเร็จของกีฬาจักรยานในมิติต่างๆ อาทิ นักกีฬาไทยในการแข่งขันระดับนานาชาติ กิจกรรมความสำเร็จในการจัดการแข่งขันกีฬาจักรยานในประเทศไทย รวมถึงภาพแผนที่ 77 จังหวัดของประเทศไทยในการรวมพลังความสำเร็จเป็นกิจกรรม "ปั่นเพื่อแม่"ในครั้งนี้ด้วย

นิทรรศการที่ 8 เส้นทางรักและห่วงใย สู่จุดหมายอย่างปลอดภัย นำเสนอเรื่องราวความรู้เทคนิค และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการขี่จักรยานให้ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด ผ่านนิทรรศการแบบ Info Graphic และวิดิทัศน์ต่างๆ

เป็นนิทรรศการอันยิ่งใหญ่แห่งความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคนที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมกับทุกภาคส่วนจะแสดงพลังแห่งความจงรักภักดีสร้างสรรค์ผลงานถวายเป็นพระราชสดุดีผ่านกิจกรรม Bike for Mom ที่กำลังจะถึงนี้ 

แสดงผล 1447 ครั้ง