15,000 ไมล์จากอัลไตสู่สุวรรณภูมิ คาราวานรถยนต์ตามเส้นทางสายไหมสู่เส้นทางสายท่องเที่ยวใหม่ สานสัมพันธไมตรีวัฒนธรรมกับการท่องเที่ยว (ไทย-จีน)
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย Mr.Wang Chen ผู้แทนกระทรวงวัฒนธรรมจีนแถลงข่าว “15,000 ไมล์จากอัลไตสู่สุวรรณภูมิ คาราวานรถยนต์ตามเส้นทางสายไหมสู่เส้นทางท่องเที่ยวใหม่ สานสัมพันธไมตรีวัฒนธรรมกับการท่องเที่ยว (ไทย-จีน)” ในวันที่ 9 ตุลาคม 2558 เวลา 15.00 - 15.30 น. ณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ กรุงเทพมหานคร
ประเทศไทยได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 นับเป็นเวลายาวนานถึง 40 ปีแล้วที่ไทยกับจีนได้ติดต่อค้าขาย เดินทางไปมาหาสู่กัน ในฐานะมิตรประเทศที่มีสัมพันธไมตรีอันแนบแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมอันดีงามและมูลค่าด้านการตลาดการท่องเที่ยว
ในปี 2558 นี้ จึงนับเป็นปีครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน ครบ 40 ปี ทั้งยังตรงกับวโรกาสพิเศษในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษาอีกด้วย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และกระทรวงวัฒนธรรม สาธารณรัฐประชาชนจีนพร้อมด้วย สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมรถยนต์แห่งชาติจีน จัดกิจกรรมพิเศษ “15,000 ไมล์ จากอัลไตสู่สุวรรณภูมิ” คาราวานสัมพันธไมตรี “วัฒนธรรมกับการท่องเที่ยวไทย-จีน + AEC” ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 40 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน และร่วมเฉลิมพระเกียรติฉลองปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี นอกจากนั้น ยังเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือกันเป็นพิเศษระหว่างทั้งสองประเทศ ส่งเสริมและเผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ดี ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์ ปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558 รวมทั้งการฉลองครบรอบ 55 ปี การก่อตั้ง ททท. และการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับประเทศกลุ่ม AEC อีกด้วย
กิจกรรมดังกล่าว เป็นการจัดคาราวานรถยนต์ตามเส้นทางสายไหมจากสาธารณรัฐประชาชนจีน (เทือกเขาอัลไต) สู่สิบสองปันนา ผ่านเข้ามายังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และเข้าสู่ประเทศไทย ผ่านทางภาคเหนือ (เชียงราย) ลงมาสู่ 19 จังหวัดภาคกลาง ไปจนถึงจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ประเทศเมียนมาร์ โดยผลที่คาดว่าจะได้รับ นอกจากจะได้ประชาสัมพันธ์การทำกิจกรรมเชิงการตลาดเพื่อสร้างกระแสท่องเที่ยวผ่านสื่อมวลชนทั้งจีนและไทยแล้ว ยังเป็นการปลุกกระแสการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเชื่อมโยงทางรถยนต์จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านเส้นทาง R 3A (เส้นทางสายไหม) สู่กลุ่มประเทศ AEC โดยเน้นช่องทางหนึ่งที่ใช้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทาง ส่งผลให้ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่มีคุณภาพเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น พักอยู่นานวัน ใช้จ่ายเพิ่มมากยิ่งขึ้น และเกิดการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมทั้งประชาชนในท้องถิ่นให้เข้ามามีบทบาทในการร่วมทำกิจกรรมท่องเที่ยวอีกด้วย
สำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวพิเศษเชิงการตลาดและประชาสัมพันธ์โดยขบวนคาราวานรถยนต์นี้ ได้มีพิธีปล่อยคาราวาน ณ เมืองอัลไต มณฑลซินเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อประชาสัมพันธ์สื่อสารการตลาด สร้างความเชื่อมั่นสำหรับการท่องเที่ยวของประเทศไทยผ่านสื่อมวลชนของจีนและผู้บริหารระดับสูงของแต่ละเมืองตลอดเส้นทางจากเทือกเขาอัลไต มณฑลซินเจียง สู่มณฑลชิงไห่ มณฑลกานสู่ มณฑลซานซี มณฑลเสฉวน และมณฑลยูนนาน พร้อมทั้งนำของที่ระลึกของแต่ละเมืองในมณฑลสำคัญๆ มาทำการตกแต่งและจัดแสดงที่ศูนย์วัฒนธรรมจีนประจำประเทศไทยเพื่อเป็นอนุสรณ์ในวโรกาสสำคัญในปีมหามงคลนี้ด้วย
ส่วนขบวนคาราวาน “ภารกิจพิเศษคาราวานความสัมพันธไมตรี ไทย-จีน ครบรอบ 40 ปี” จะเริ่มต้นออกเดินทางจากประเทศไทยในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2558 ไปยังเมืองอัลไต มณฑลซินเจียง และจะมีพิธีปล่อยขบวนรถในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2558 มุ่งหน้าสู่เส้นทางประวัติศาสตร์ อารยธรรม และมรดกโลก ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ โดยเริ่มตั้งแต่มณฑลซินเจียง อาทิ เทือกเขาทองคำอัลไต ธารน้ำ 5 สี อุทยานเมืองปีศาจและแปลงนาน้ำมันเค่อลามาอี้ บ่อน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลซินเจียง เข้าสู่มณฑลกานซู ชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ สุสานจักรพรรดิฮามี่ เนินทรายหมิงซาซาน หมู่ถ้ำพระสหัสพุทธมอเกา และอุทยานตานเสียตี่เม้า หุบเขาสายรุ้งอันกว้างใหญ่ไพศาลที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้างขึ้นสวยงามเกินคำบรรยาย จากนั้น เดินทางเข้าสู่มณฑลส่านซี ชมถ้ำผาพุทธศิลปม่ายจีซานซึ่งมีพระพุทธรูปหินสลัก กว่า 7,000 องค์ ชมกองทัพหุ่นทหารจิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลกที่เมืองซีอานก่อนจะเข้าสู่มณฑลเสฉวนเพื่อตื่นตาตื่นใจกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น วัดพระนางบูเช็คเทียน และเดินทางผ่านเส้นทางการสู้รบสมัยสามก๊ก ขงเบ้งวางกลศึกสู้รบกับโจโฉ ไปยังเมืองเฉินตู ชมศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้ายักษ์ และชมเมืองโบราณกวานไจ่เสี้ยงก่วน เมืองโบราณเก่าแก่กว่า 1,000 ปี จากนั้นคณะคาราวานเข้าสู่มณฑลยูนนาน ชมอุทยานป่าหินล้านปีที่คุนหมิง และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของเมืองเชียงรุ้ง สิบสองปันนา
หลังจากสิ้นสุดการเดินทางในสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว คณะคาราวานก็จะเดินทางผ่านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว แล้วเข้าสู่ประเทศไทยที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ชมวัดร่องขุ่น จากนั้นเดินทางผ่านจังหวัดพะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ แวะเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกสุโขทัย เดินทางต่อไปพิษณุโลก นครสวรรค์ และเข้าสู่ “คาราวานพิชิต 19 จังหวัดภาคกลาง” เริ่มที่จังหวัดชัยนาท โดยได้เลี้ยงต้อนรับคณะคาราวานที่เดินทางมาถึง
เมื่อมาถึงภาคกลาง ขบวนคาราวานจะเดินทางผ่านจังหวัดสิงห์บุรี และ จังหวัดลพบุรี แวะชม พระปรางค์สามยอด พระนารายณ์ราชนิเวศน์ และดูลิง 3 ก๊กฉบับลพบุรีที่ศาลพระกาฬ จังหวัดสระบุรี นมัสการรอยพระพุทธบาท ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จังหวัดอ่างทอง สัมผัสปลายพระหัตถ์พระพุทธเจ้าองค์ใหญ่ที่วัดม่วง และเดินทางต่อไปยังจังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อชมหมู่บ้านมังกรสวรรค์และเรียนรู้ประวัติศาสตร์จีน 5,000 ปี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไหว้พระและนั่งช้างชมโบราณสถานในเขตนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และขับรถชมไฟส่องสว่างโบราณสถานในยามราตรี หลังจากนั้น คณะเดินทางสู่จังหวัดนนทบุรี ชมวัดเล่งเน่ยยี่ 2 และเดินทางผ่านจังหวัดปทุมธานีต่อไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา นมัสการพ่อโสธร และสักการะพระพิฆเนศองค์ใหญ่ ก่อนเดินทางเข้าสู่จังหวัดสมุทรปราการเพื่อชมเมืองโบราณ
จากจังหวัดสมุทรปราการ เดินทางผ่านจังหวัดสมุทรสาคร มุ่งหน้าจังหวัดสมุทรสงคราม เมืองสายน้ำสามเวลา ชมศูนย์การเรียนรู้ชุมชนต้นแบบบ้านบางพลับ อุทยาน ร.2 ตลาดน้ำอัมพวา และค่ายบางกุ้ง จากนั้นเดินทางสู่จังหวัดราชบุรี เยี่ยมชม ตลาดน้ำดำเนินสะดวก และ ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก ซึ่งใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์จีนเรื่อง “Lost In Thailand 2” คณะเดินทางต่อไปยังจังหวัดเพชรบุรี เพื่อเที่ยวชมชายทะเลชะอำและพักผ่อนตามอัธยาศัย วันต่อมาเดินทางเข้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แวะชมพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม" รวม 7 พระองค์ ณ “อุทยานราชภักดิ์” และสำรวจตลาดการค้าชายแดนและเส้นทางข้ามคาบสมุทรจาก ฝั่งทะเลอ่าวไทยเชื่อมไปยังฝั่งทะเลอันดามันที่ “จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร” ชายแดนประเทศเมียนมาร์
จากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดินทางย้อนกลับขึ้นมาเพื่อเข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี ชมสะพานข้ามแม่น้ำแคว พร้อมสักการะเจ้าแม่กวนอิมไม้แกะสลัก ณ วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ และสนุกสนานกับการล่องแพเปียก จากนั้น เดินทางผ่านจังหวัดนครปฐมเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ชมพระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ในช่วงค่ำของวันที่ 13 ธันวาคม 2558 ซึ่งเป็นสิ้นสุดการเดินทาง คณะคาราวานทัวร์วัฒนธรรมไทย – จีน จะเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อปิดโครงการและมอบเกียรติบัตร ผู้พิชิต “15,000 ไมล์ จากอัลไตสู่สุวรรณภูมิ” ณ ศูนย์วัฒนธรรมจีนประจำประเทศไทย กรุงเทพมหานคร แล้วเดินทางต่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ เดินทางกลับสาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ 17 ธันวาคม 2558 รวมระยะเวลาในการเดินทางทั้งสิ้น 31 วัน 30 คืน
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและรายละเอียดเบื้องต้น ติดตามการเดินทางตลอด 31 วันสามารถเข้าชมได้ที่ www.tiewpakklang.com และที่เฟซบุ๊คแฟนเพจ TAT_Tiewpakklang