ททท. คิกออฟ “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย” รับศักราชใหม่ปี ๕๙ ยกของดีทั่วไทยมาไว้ในสวนลุมฯ ย้ำภาพงานเดียวเที่ยวทั่วประเทศ.
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร จัดงานยักษ์รับศักราชใหม่ “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ๒๕๕๙” มหกรรมท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ยกเมืองไทยมาไว้ในสวนลุมฯ หนุนปีท่องเที่ยววิถีไทย กระจายรายได้สู่ชุมชน โชว์ไฮไลท์เด็ดทั้งของกิน ของใช้ และการแสดงจาก ๕ ภาค เข้าชมฟรี ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๗ มกราคม ๒๕๕๙ ขยายเวลาตั้งแต่เที่ยงวันถึงสี่ทุ่ม คาดผู้ชมกว่า ๖ แสน หวังรายได้โต ๒๕%
ในวันนี้ ( ๑๓ มกราคม ๒๕๕๙ ) ได้มีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ โดยพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้บริหาร ททท. ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารจากหน่วยงานที่สนับสนุน และผู้บริหารในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ให้เกียรติร่วมงานอย่างคับคั่ง
พิธีเปิดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยในปีนี้ จัดภายใต้แนวคิด “ความเรืองรองของความสุขวิถีไทย เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร” เริ่มต้นด้วยขบวนแห่ประเพณีวิถีไทยจาก ๕ ภาค และการแสดงชุดพิเศษ “นาฏยหรรษาวิถีไทย เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร” จากนั้นประธานในพิธี จะลั่นกลองเปิดงานฯ เพื่อให้เสียงแห่งความสุขวิถีไทย กึกก้องไกลไปทั่วประเทศไทยและทั่วโลก
นายยุทธศักดิ์ สุภสร กล่าวว่า ททท. ได้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จัดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย” ครั้งที่ ๓๖ ประจำปี ๒๕๕๙ (Thailand Tourism Festival : TTF 2016) ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๗ มกราคม ๒๕๕๙ งานแสดงสินค้าด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศครั้งยิ่งใหญ่ หลากหลายแง่มุม ทั้งด้านวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยคัดเลือกของดีของเด็ดจากทั่วทุกภูมิภาค ทุกจังหวัดมารวมอยู่ในงานเดียว ภายใต้แนวคิด “ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร” เพื่อสร้างแรงจูงใจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาค มุ่งกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนทั่วประเทศ สร้างการมีส่วนร่วมและตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น รวมทั้งเป็นการเฉลิมฉลองต้อนรับศักราชใหม่อย่างมีความสุข หนุนการท่องเที่ยวตลอดปี ๒๕๕๙
“เมื่อปี ๒๕๕๘ ททท. ได้ปรับการจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย จากที่จัดในช่วงเดือนมิถุนายนเป็นมกราคมและเปลี่ยนสถานที่จัดงานมาเป็นสวนลุมพินี ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมาก และประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานถึง ๖๐๐,๐๐๐ คน สร้างเงินสะพัดกว่า ๔๐๕ ล้านบาท และได้สร้างภาพพจน์ของงานให้เป็นที่ยอมรับ เชื่อถือบรรลุเป้าหมายตามที่คาดหวัง” นายยุทธศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี ๒๕๕๙ ได้ต่อยอดความสำเร็จจากการจัดงานในปีที่ผ่านมา โดยเลือกสถานที่สวนลุมพินีในการจัดงานอีกครั้ง ภายใต้บรรยากาศสดชื่นและสวยงาม การคมนาคมที่สะดวก พร้อมด้วยไฮไลท์กิจกรรมต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนอง รองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ คาดว่าการจัดงานครั้งนี้ จะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า ๖๐๐,๐๐๐ คน สร้างเม็ดเงินสะพัดภายในงาน ๕๐๐ ล้านบาท เติบโต ๒๕% จากปีที่ผ่านมา และเป็นงานที่จะจุดกระแสการท่องเที่ยวภายในประเทศตลอดปี ๒๕๕๙ ตามเป้าหมายการท่องเที่ยวภายในประเทศ ๑๕๐ ล้านคนครั้ง ก่อให้เกิดรายได้ ๘ แสนล้านบาท
เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ๒๕๕๙ จัดอย่างยิ่งใหญ่ และได้พัฒนาอีกระดับจากครั้งที่ผ่านมา มีการจัดกิจกรรมครบวงจรด้านการท่องเที่ยว ประกอบด้วย ๔ โซนหลัก เริ่มจาก
โซนที่ ๑ พบกับเส้นทาง “๑๒ เมืองต้องห้าม…พลาด Plus” เส้นทางท่องเที่ยวที่เป็นที่สุด.. ห้ามพลาดของ ๒๔ จังหวัดทางเลือกใหม่ ไฮไลท์เด็ดของโซนนี้ ผู้เข้าชมงานจะได้ชมภาพยนตร์ไทยในอดีตที่ หาดูได้ยาก จากโรงภาพยนตร์ย้อนยุค “เขาเล่าว่า” อาทิ ด้วยเกล้า พระเจ้าช้างเผือก โอเคเบตง เป็นต้น และยังสามารถเลือกซื้อของจากร้าน TAT Shop ที่รวมสินค้าของที่ระลึกจาก ททท. และอนุสาร อสท.
โซนที่ ๒ โซนหมู่บ้าน ๕ ภูมิภาค รวมของดีทั่วเมืองไทยมาไว้ในโซนนี้ เพื่อสร้างการรับรู้ถึงเอกลักษณ์ของพื้นที่ ใน ๕ ภูมิภาค นำเสนอแลนด์มาร์คของแต่ละภาค การแสดงที่หาดูได้ยาก ของดีของเด็ด ภายใต้สโลแกน “ของแท้ ๑๐๐% การันตีโดย ททท.” ด้วยเอกลักษณ์ที่สะท้อนตัวตนของแต่ละพื้นที่ ประกอบด้วย
หมู่บ้านภาคเหนือ ในธีม “เหนือฝันล้านแรงบันดาลใจ” ตอน ผ้าเมืองเหนือของไทย…เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร ที่จะสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการท่องเที่ยว พบกับการจำลองสถานที่และบรรยากาศพระตำหนักดาราภิรมย์ จังหวัดเชียงใหม่ และกิจกรรมไฮไลท์หลากหลาย เช่น การแสดงละครฟ้อนเทิดพระเกียรติ พระราชชายาเจ้าดารารัศมี นิทรรศการ Hall of Fame จัดแสดง “๕ นางพญาผ้าซิ่นแห่งล้านนา”
พระประวัติและพระกรณียกิจของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ที่เกี่ยวกับผ้า
ภายในงานยังมีการจำหน่ายผ้าที่มีชื่อเสียงของแต่ละพื้นที่ในราคาพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น ชุดเครื่องนอนก่อนวิวาห์ จังหวัดอุทัยธานี ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากยูเนสโก้ ผ้าหม้อห้อม จังหวัดแพร่ ผ้าตีนจกไหมเงิน-ไหมทอง จังหวัดสุโขทัย ผ้าทอขนแกะนาโน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดผลงานสุดยอดนวัตกรรมสิ่งทอนาโน ผ้าทอยกดอก จังหวัดลำพูน ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI พร้อมกับกิจกรรมที่ทุกคนรอคอย รำวงย้อนยุค ถนนคนเดิน จังหวัดพิษณุโลก นอกจากนี้ยังได้รวมสุดยอดของดีจากกาดดังเมืองเหนือ โดยยกกาดมาไว้ที่สวนลุมพินี อาทิ กาดริมยม ๒๔๓๗ จังหวัดสุโขทัย กาดนั่งยองคล้องย่าม จังหวัดตาก กาดกองต้า จังหวัดลำปาง และกาดหละปูน จังหวัดลำพูน
หมู่บ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในธีม “อีสาน แซ่บนัว” พบกับการจำลองพระธาตุพนมและปราสาทรวงข้าวสูง ๕.๓ เมตร อันเป็นที่เคารพและศรัทธาการแสดงจำลองนาข้าว ประเพณีวัฒนธรรมอีสานที่เกี่ยวกับข้าว เช่น บุญคูณลานและการตักบาตรข้าวเหนียว สาธิตการทำมาลัยข้าวตอกเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ในงานมาฆบูชาจากยโสธร การทำมาลัยไม้ไผ่ในงานบุญข้าวประดับดินกาฬสินธุ์ พร้อมกิจกรรมสนุกสนานที่จะมีขึ้นทุกวัน
เลือกซื้อผลผลิตของแท้ของคนอีสาน กับผ้าอีสานที่ทุกคนถามหา ทั้งผ้ากาบบัวอุบลราชธานี ผ้าแพรวา กาฬสินธุ์ ผ้าไหมยกทองสุรินทร์ ผ้าหมี่ขิดอุดรธานี และที่ขาดไม่ได้จากโครงการเขาเล่าว่า กับ “ผ้าผิวสวย” ผ้าย้อมคราม จากสกลนครและอุดรธานี พบขบวนผลิตภัณฑ์อาหารทั้ง ข้าวฮาง ข้าวเจ้า ข้าวเหนียว และอาหารจานแซ่บ…ที่ลือชื่อ ไม่ว่าจะเป็นข้าวเหนียวส้มตำมีชื่อเสียงจากจังหวัดต่างๆ ไก่ย่างเขาสวนกวาง หมูทุบกาฬสินธุ์ น้ำหมากเม่า ข้าวปุ้นน้ำแจ่วเลย หมูยออุบลฯ ปลาส้มยโสธร ผัดหมี่โคราช หม่ำชัยภูมิ กะละแมนครพนม
หมู่บ้านภาคกลาง ในธีม “สุขกลางใจใกล้แค่เอื้อม” ยกบ้านเรือนไทยขนาดมาตรฐาน (คุ้มขุนแผน) พร้อมการสาธิตประเพณีไทยที่สำคัญ เช่น พิธีขึ้นบ้านใหม่ พิธีแต่งงาน พิธีทำขวัญนาคและการบวชนาค ตั้งแต่เวลา ๑๒.๐๐-๑๔.๐๐ น. ของทุกวัน ชมไฮไลท์การแสดงจากศิลปินลูกทุ่งเมืองสุพรรณบุรี ตามรอยราชินีลูกทุ่งพุ่มพวง ดวงจันทร์ กับ “เปาวลี พรพิมล” การแสดงจากแชมป์ลิเกเงินล้านจากอ่างทอง คณะสาวรำวงดีกรีแชมป์จากเมืองเพชรบุรี ละครนอก ละครใน ละครพันทาง และโขนจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กรมศิลปากร หนังใหญ่วัดขนอน จังหวัดราชบุรี และ ละครลิงคณะ “ประกิต ศิษย์พระกาฬ”
นอกจากนั้นยังมีการสาธิตศิลปหัตถกรรมจากภูมิปัญญาชุมชน เช่น การปั้นหัวโขน การปั้นตุ๊กตาชาววัง การทำขนมไทย การร้อยมาลัย การแกะสลักผักผลไม้ รวมถึงพื้นที่จำหน่ายสินค้าโอท็อป จำลองบรรยากาศตลาด “๑๕ ตลาดบก ๑๖ ตลาดน้ำ” เพื่อนำเสนออาหารและสินค้าท้องถิ่นที่โดดเด่นในภูมิภาค
หมู่บ้านภาคใต้ ในธีม “ปักษ์ใต้…ปักหมุดหยุดเวลา” ชูท่องเที่ยววิถีธรรมกับการรวมพลังศรัทธาจากวัฒนธรรมที่หลากหลาย พบแลนด์มาร์คที่น่าตื่นตาตื่นใจ การจำลองศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี พระบรมธาตุไชยา วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร สุราษฎร์ธานี เจดีย์พระมหาธาตุ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และการจำลองเสาชิงช้าซึ่งใช้ในพิธีตรียัมปวาย และตรีปวายของพราหมณ์จากนครศรีธรรมราช ชวนเที่ยวตลาด ๓ สไตล์ พบสินค้าดีอาหารอร่อยในบรรยากาศ ตลาดจำลองย้อนยุคสไตล์ชิโนโปรตุกีส ตลาดการค้าย่านสถานีรถไฟ และตลาดหน้าศาลเจ้า
พร้อมโซนสาธิตกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การสาธิตหนังตะลุง “สุชาติ ทรัพย์สิน” ที่มีดีกรีระดับโลก การทำกรงนก การแกะสลักหัวกริช และขบวนสินค้าดีเด่น อย่าง ผ้าบาติก เครื่องประดับจากมุก และเครื่องถม-เครื่องเงินเมืองนครฯ และอาหารอร่อย อาทิ เค้ก หมูย่างของดีเมืองตรัง ข้าวหมก ขนมจีน ข้าวยำ ของดังจากกระบี่ ปลาดุกร้า ข้าวสังข์หยดจากพัทลุง น้ำแคชชูวี่ (น้ำมะม่วงหิมพานต์) จากภูเก็ต กล้วยหินยะลา ข้าวเกรียบปลาปัตตานี ลูกชก ส้มตำสาหร่าย จากพังงา และอื่นๆอีกมากมาย
หมู่บ้านภาคตะวันออก ในธีม “สีสันตะวันออก” กับบรรยากาศแสนสบายสไตล์ท้องทะเล พร้อมการจำลองท่าเทียบเรือยอชท์หรู ยกโชว์อลังการระดับนานาชาติมาไว้ในสวนลุม ได้แก่ อัลคาซ่าร์ และมิโมซ่า พัทยา พร้อมกิจกรรมสาธิต “ภูมิปัญญาสืบศิลป์ ถิ่นตะวันออก” กับสินค้าหายากอย่าง ผ้าทออ่างศิลา เสื้อผ้าฝ้ายหมักโคลนทะเล ผ้าทอมือสระแก้ว และเครื่องประดับพลอยเมืองจันทบุรี ขบวนสินค้าของใช้จากภูมิปัญญา อาทิ ยาดมสมุนไพรบ้านช้างทูน ผลิตภัณฑ์จักสานพนัสนิคม เสื่อจันทบูร งอบบ้านน้ำเชี่ยว ผลไม้ขึ้นชื่อ จากสวน ทั้งสละ แคนตาลูป มะยงชิด ฯลฯ พลาดไม่ได้กับอาหารทะเลสดๆ โดยเฉพาะกุ้งแม่น้ำเผา ๑๐๐กิโลกรัม/วัน พร้อมเสิร์ฟตลอดงาน
โซนที่ ๓ รวมของดีจาก ๕๐ ชุมชนในเขต กทม. มารู้จักกับอาหารอร่อยและสินค้าเด่น ภายใต้มุมมองใหม่ที่หลายคนยังไม่เคยสัมผัส คัดสรรสินค้าเด็ดอาหารดัง จากทุกชุมชนมาไว้ในงานเดียว
โซนที่ ๔ เวทีกลางกับกิจกรรมบันเทิงมากมาย ในทุกวันของการจัดงาน ทั้งการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ๕ ภาค การแสดงร่วมสมัย พบดาราชื่อดัง มาริโอ้ เมาเร่อ, เจมส์ มาร์, เวียร์ ศุกลวัฒน์, เกรท วรินทร ชมคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นแนวหน้า โจอี้บอย กับสิงห์เหนือเสือใต้, หญิงลี ศรีจุมพล, ก๊อท จักรพันธ์, วงบอดี้สแลม และ เบน ชลาทิศ รวมถึงยังมีกิจกรรมแจกหนังสือเดินทาง ร่วมท่องเที่ยว ค้นหาเรื่องราว “เขาเล่าว่า..” ตามจุดต่างๆ จำนวน ๒๕ จุด ทั่วบริเวณงาน พร้อมประทับตราและตอบคำถาม เพื่อรับกระเป๋าเทศกาลเที่ยวเมืองไทย เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร ที่รอแจกผู้ร่วมงาน ฟรี!!! ในทุกวัน
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ๒๕๕๙ เป็นเทศกาลท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ของเมืองไทยจากการรวมศักยภาพแห่งวิถีไทย ผ่านเอกลักษณ์ที่โดดเด่น หลากหลาย ตอกย้ำความพร้อม การท่องเที่ยวของไทยอันเป็นที่ยอมรับและชื่นชมจากทั่วโลก จึงถือเป็นโอกาสที่คนไทยทั่วประเทศ จะมีส่วนร่วมภาคภูมิใจไปด้วยกัน โดย ททท. ได้ยกเอกลักษณ์ความเป็นไทยในแต่ละพื้นที่ รวมทุกภาคมาไว้อย่าง ครบครัน ทั้งสุดยอดผลิตภัณฑ์อาหาร และสินค้าคุณภาพ ภูมิปัญญาชุมชนให้ทุกคนได้เลือกซื้อหา ร่วมประสบการณ์ในการเรียนรู้ และรู้จักของดีเมืองไทยในทุกมิติ ตลอดจนหวังให้เกิดการเดินทางไปสัมผัสในแหล่งท่องเที่ยวจริงอย่างต่อเนื่อง
“นอกจากนี้ ททท. มีเป้าหมายในการยกระดับงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยไปสู่ระดับสากล รวมทั้งการให้ความสำคัญในการยกระดับจิตใจด้านการท่องเที่ยว จึงมีแผนรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมผ่านงานนี้ เพื่อให้คนไทยตระหนักถึงการเป็นนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ลดมลภาวะ เช่น ไม่ทิ้งขยะนอกสถานที่รองรับ ตลอดจนงดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ในพื้นที่จัดงาน พร้อมกระตุ้นให้คนไทย ภาคภูมิใจในความเป็นเจ้าบ้านที่ดี มีส่วนร่วมต่อการพัฒนา สร้างสรรค์ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ก้าวไปสู่ความยั่งยืน มั่นคง เป็นแบบอย่างให้กับกลุ่มประเทศอาเซียน ในฐานะที่ไทยมีความรู้และประสบการณ์ในอุตสาหกรรมนี้เป็นอย่างดี” ผู้ว่า ททท. กล่าว
เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ๒๕๕๙ ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๗ มกราคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๒.๐๐-๒๒.๐๐ น. ณ สวนลุมพินี เปิดให้เข้าชมฟรี นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วยรถประจำทาง รถไฟใต้ดิน MRT สถานีสีลม รถไฟฟ้า BTS สถานีศาลาแดง รายละเอียดเพิ่มเติมที่ ๑๖๗๒ เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย
(รายงานข่าวโดย ศิวพร ศุภรัตนดิลก)
(Reported by Siwaporn Supharattanadilok)
แสดงผล 1537 ครั้ง