ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวกิจกรรม

นายยุทธศักดิ์  สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.นำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยจำนวน 88 ราย เข้าร่วมงาน International Tourism Borse (ITB) 2017  ครั้งที่ 51 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8–12 มีนาคม 2560 ณ Messe Berlin Exhibition Ground กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยในวันที่ 8–10  มีนาคม จะเปิดสำหรับผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว (Trade Day) และวันที่ 11-12 มีนาคม  เปิดสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป (Trade and Public Day) 

งาน ITB หรือ International Tourism Borse เป็นงานมหกรรมทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของโลก จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2509 ลักษณะการจัดงานมุ่งเน้นกิจกรรมด้านการส่งเสริมการขายการท่องเที่ยว  การเจรจาธุรกิจ  การประชุมเชิงวิชาการในหัวข้อเกี่ยวข้องกับทิศทางการตลาด  การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ความคืบหน้าด้านเทคโนโลยีในการดำเนินกลยุทธ์การตลาดท่องเที่ยวที่สำคัญ ฯลฯ   โดยในแต่ละปีมีประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเข้าร่วมงานกว่า 180 ประเทศ เพื่อสร้างโอกาสทางการแข่งขันเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ กอปรกับนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน มีพฤติกรรมเดินทางออกนอกประเทศเพื่อการท่องเที่ยวมีมากขึ้น จึงนับว่าเป็นตลาดใหญ่ที่ได้รับความสนใจจากนานาประเทศ

นายยุทธศักดิ์  สุภสร ผู้ว่าการ ททท.  เปิดเผยถึงการเข้าร่วมงาน ITB ของ ททท. ในปีนี้เป็นครั้งที่ 43  ในส่วนการจัดสรรพื้นที่ของประเทศไทย (Thailand Stand) อยู่ในโซนเอเชีย ขนาด 540 ตารางเมตร มีการออกแบบคูหาและตกแต่งภายใต้แคมเปญ Amazing Thailand ในแนวคิด Discover Amazing Stories in Amazing Thailand โดยเน้นการนำเสนอสินค้าและบริการที่บ่งบอกถึง The Unique Thai Local Experiences ภายในคูหาประเทศไทย ประกอบด้วย การจัดโต๊ะเจรจาทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการ  การจัดเคาน์เตอร์ให้ข่าวสารเพื่อแจกจ่ายเอกสารเผยแพร่ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวประเทศไทยแก่ผู้สนใจ รวมถึงคูหาสำหรับประชาสัมพันธ์กิจกรรม The LINK Projects (กิจกรรมส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวที่อาศัยการเชื่อมโยงในหลายมิติ  โดยมีแนวความคิดหลักในการดำเนินกิจกรรมคือ L: Local   Experiences   I: Innovation  N: Networking  และ K: Keeping Character)   กิจกรรม Unique Thai Local Experiences (กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานเขียนไปรษณียบัตรซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของไทย และจ่าหน้าถึงตนเอง จากนั้น ททท. จะนำไปรษณียบัตร

ส่งกลับไปให้ผู้เข้าร่วมงานโดยส่งมาจากจังหวัดพังงา ซึ่งอยู่ในโครงการ The LINK เพื่อสร้างความประทับใจและแรงจูงใจให้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย)  กิจกรรมเปิดตัว Thai-licious Journey (นำเสนอการท่องเที่ยวผ่านอาหารไทยนานาชนิดที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก)   และ ททท. ยังตอกย้ำวิถีไทยด้วยการจัดกิจกรรมสาธิตการเพนท์ผ้าบาติก และการสาธิตการทำผลิตภัณฑ์จากกระจูด มาจัดแสดงเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชมงานในคูหาประเทศไทย ขณะเดียวกันยังมีหน่วยงานอื่นของประเทศไทยร่วมอยู่ด้วย ได้แก่ สถาบันสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ร่วมออกบูธเพื่อเผยแพร่และส่งเสริมความรู้ที่ยั่งยืนเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมไทย รวมถึงคูหาจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่นำเสนอ Sports tourism ที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวที่ผนวกกับการแข่งขันกีฬา 

นอกจากนี้  ในวันที่ 8 มีนาคม 2560  ททท. โดยนายธเนศวร์  เพชรสุวรรณ ผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกาและตะวันออกกลาง เป็นผู้แทนลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมมือ (MOU) กับ              Mr. Klaus Henschel, LCC’s Managing Director จาก Lufthansa City Centre (LCC)  ซึ่งข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยว “Destination of the Year”. ซึ่งนับเป็นการสร้างเครือข่ายพันธมิตรท่องเที่ยวในตลาดหลักอีกด้วย

ในโอกาสนี้ วันที่ 9 มีนาคม 2560  ททท. ได้รับพระกรุณาธิคุณจากทูลกระหม่อมหญิงอุบล       รัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี  เสด็จเข้าร่วมงาน เพื่อเยี่ยมชมคูหาประเทศไทยและประทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ  พร้อมทรงประทานรางวัล Thailand Excellence Green Awards 2017 ให้แก่บริษัทนำเที่ยว และสื่อมวลชน ที่เป็นพันธมิตรของไทยในตลาดเยอรมัน และมีบทบาทในการสนับสนุนการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในประเทศไทยให้ชาวเยอรมันได้รับรู้ จำนวน 3 ราย ได้แก่  Mr. Michael Metzner จาก The Tischler Reisen Company   Mr. Marco Hansen จาก The Explorer Fernreisen Company และ Mr. Enver Hirsch จาก Soiblossom Travelblog ณ คูหาประเทศไทย  

 นอกจากเข้าร่วมงาน ITB  เป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกปีแล้ว ในปีนี้ ททท. ยังเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยว คืองาน Post ITB Road Show ณ เมืองแมดริด ราชอาณาจักรสเปน  ในวันที่ 13 มีนาคม 2560 และเมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ในวันที่ 15 มีนาคม 2560  เพื่อเป็นการขยายพื้นที่ทางการตลาดใหม่ๆ

จากสถิติในปี 2559 นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันเดินทางเข้าประเทศไทยประมาณ 833,000 คน  มีการใช้จ่ายวันละ 3,757 บาท/คน/วัน ระยะพำนักเฉลี่ย 17 วัน จุดแข็งสำคัญของประเทศไทยที่ยังคงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเยอรมันเลือกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย คือ แหล่งท่องเที่ยวหลักซึ่งเป็นที่นิยมของตลาดโดยเฉพาะประเภทหาดทรายชายทะเลของประเทศไทย ที่มีความได้เปรียบโดยจุดหมายปลายทางได้แก่ กรุงเทพมหานคร  สุราษฎร์ธานี  ภูเก็ต  เชียงใหม่ และกระบี่