ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวกิจกรรม

เพราะประเทศไทยมีความอุดมสมบูรณ์ในธรรมชาติ และมีความหลายหลายเรื่องของวัฒนธรรม ทำให้นักท่องเที่ยวให้ความสนใจและหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมาก  โดยเมื่อปลายปีที่ผ่าน (2559) ได้รับการันตรีจากการสำรวจของ Mastercard Global Destinations Cities Index 2016 ว่า “กรุงเทพมหานคร” เป็นแชมป์อันดับ 1 เมืองที่นักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก และเพื่อตอกย้ำความเป็นที่ 1 ของประเทศไทย วันนี้ได้รับเกียรติจาก “คุณยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าฯ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มานั่งพูดคุย พร้อมเจาะทุกประเด็นข้อสงสัยของการท่องเที่ยวไทยได้อย่างตรงไปตรงมา

- เป้าหมายของการท่องเที่ยวไทยในปี 2560 ?

“ปีนี้เราไม่ได้ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว แต่เราตั้งเป้าเพิ่มรายได้ เพราะเรามองว่ารายได้มีผลต่อเศรษฐกิจ ทั้งในและต่างประเทศ เราจะเพิ่มที่ 10% ปีที่แล้ว (พ.ศ. 2559) รายได้ประมาณ 6 แสน 6 หมื่นล้านบาท ปีนี้ (พ.ศ. 2560) จะเพิ่มขึ้น 10% ตัวเลขก็จะอยู่ที่ประมาณ 9 แสน 5 หมื่นล้านบาท ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเดินทางประมาณ 154 ล้านคน/ครั้ง ส่วนชาวต่างชาติเราตั้งเป้าไว้ว่า ยอดเงินอยู่ที่ 1.65 ล้านล้านบาท ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 32.6 ล้านคน คาดว่านักท่องเที่ยวน่าจะขยับขึ้น 33-34 ล้านคน รายได้เพิ่มขึ้น 10% เหมือนกันอยู่ที่ประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท รวมรายได้ในปีนี้ที่ตั้งไว้น่าจะอยู่ที่ 2.77 ล้านล้านบาท”

- อาวุธสำคัญที่เสริมการท่องเที่ยวไทย ?

“สำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ สิ่งแรกที่เราพยายามทำ คือ สร้างการรับรู้ ทำอย่างไรให้ประเทศไทยเป็น Prefer Destination หรือจะเป็น Discover Amazing Story อย่าง Amazing Thailand คีย์เวิร์ดสำคัญของเรา

Amazing story คืออะไร? การขายประสบการณ์ Unique Local Experiance แทนที่จะมากินอาหารไทยอย่างเดียว ก็ให้เขาลองทำอาหารไทย มาดูมวยไทยก็ให้เขาได้ลองต่อยมวย หรือมาไหว้พระก็ลองให้เขาได้นั่งสมาธิ เปลี่ยนจาก Attraction Base มาเป็น Activity Base มากขึ้น ให้เขาได้ลองทำ ได้รู้จักเรามากขึ้น ซึ่งการได้ลองทำ ส่งผลให้การพำนักยืดเวลาได้ยาวขึ้น เกิดการใช้จ่ายได้สูงมากขึ้น

ส่วนนักท่องเที่ยวในประเทศเรากำลังจะแก้ปัญหา 2 อย่าง 1. คือ คนไทยเที่ยวเยอะอยู่แล้ว แต่อยากให้เที่ยวในวันธรรมดามากขึ้น จึงเกิดมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในวันธรรมดา 2. เที่ยวต้องมีการกระจายตัวไม่ใช่แค่เที่ยวเมืองหลักไม่กี่เมือง เพราะฉะนั้น เราจึงดำเนินการ 12 เมืองต้องห้ามพลาดต่อ สนับสนุนให้เที่ยวเมืองรองมากขึ้น จุดขายคือการท่องเที่ยววิถีไทยเก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง หลักการคือ ไปเที่ยวและลงรายละเอียด กิจกรรมต่างๆ ไปแล้วได้ลองทำ ควบคู่กับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามในแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ อันนี้คืออาวุธสำคัญของการท่องเที่ยวไทยในปีนี้ นอกจากนี้ ททท. ก็ได้ใช้วัฒนธรรมมาส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย เพราะเราเล็งเห็นว่า วัฒนธรรมของเราคือจิตวิญญาณ เราพยายามส่งเสริมในรูปแบบที่ไม่ต้องตีความมากหนัก เช่น วัฒนธรรมในด้านอาหารท้องถิ่น ที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งตรงนี้ทุกคนสามารถตีความแค่ อร่อย กับ ไม่อร่อย”

 - การเรียกความเชื่อมั่นสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ?

“ผมมองแล้วไม่มีประเด็นอะไรที่เราต้องห่วง การท่องเที่ยวสามารถปรับตัวได้ไว อีกอย่างลูกค้าเราเยอะ จำนวนประชากรทั่วโลกหลายร้อยล้านคน อาจจะมีบางพื้นที่มีผลกระทบอย่าง จีนอาจจะหายไปบ้าง แต่เราก็ได้ลูกค้ามาทดแทนเสมอ อย่างรัสเซียเองก็กลับมาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น คาดว่าปีนี้ ประเทศที่เดินทางระยะไกลโซนยุโรปน่าจะมาเที่ยวบ้านเรามากขึ้น และในขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวเดินทางระยะใกล้อย่าง เกาหลี ญี่ปุ่น เราก็ทำได้ค่อนข้างดี สำคัญที่สุด ททท. เองก็สามารถผ่านวิกฤตเรานั้นได้หลายครั้ง ซึ่งเราสามารถทำได้ดีถึงแม้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาทีม ททท. สามารถเรียกความเชื่อมั่นนั้นกลับมาได้อย่างรวดเร็ว และทำกันแบบมืออาชีพ”

- การคัดกรองนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ ?

“นโยบายตอนนี้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ทั้งกลุ่มในเชิง Wedding & Honeymoon, Health & Wellness หรือแม้แต่ Sport Tourism นักท่องเที่ยวเหล่านี้เป็นกลุ่มคุณภาพ ขณะเดียวกัน ในประเทศเองเราก็มีกลุ่มนักท่องเที่ยววัยเก๋า กลุ่มผู้หญิง กลุ่มเจนวาย (Gen Y) เราทำการตลาดกับกลุ่มเหล่านี้มากขึ้น แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผลพวงของการประชาสัมพันธ์ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาบ้านเราเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีครับแต่โอกาสที่จะคัดกรองนักท่องเที่ยวต้องทำหลังจากนี้เป็นต้นไป แต่ไม่ใช่ว่า เราจะไม่เอานักท่องเที่ยวระดับล่าง แต่ทำยังไงให้คนกลุ่มระดับบนเข้าใจ และเห็นประเทศไทยเป็น Prefer Destination อย่างที่ผมได้บอกไว้เมื่อข้างต้น”

- เทคโนโลยีมีส่วนในการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยได้อย่างไร ?

“เรื่องของความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี เรากำลังศึกษาเรื่องนี้ว่าจะส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศอย่างไร เพื่อจะปรับกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสมกับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างพวกแอปพลิเคชั่นท่องเที่ยวต่างๆ ที่เห็นว่าโดดเด่นในปีที่ผ่านมา อาทิ Traveloka มีส่วนทำให้การตัดสินใจของคนชอบเที่ยวใช้เวลาสั้นลง เพราะเขาไม่จำเป็นต้องวางแผนจองห้องพักหรือตั๋วเครื่องบินนานๆ เพื่อให้ได้ราคาที่ถูก การมีแอปฯ ขึ้นมาก็ทำให้มีการจ่ายเงินในระบบออนไลน์และช่องทางต่างๆ ซึ่ง ททท. ก็ต้องเอามาต่อยอดอีกว่า ระบบนี้มีผลต่อระบบเศรษฐกิจไทยมากน้อยแค่ไหน แต่การที่มีแอปพลิเคชั่นท่องเที่ยวเกิดขึ้นมา ก็อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว ถ้าโลกเราไปแล้ว ประเทศไทยมีความพร้อม ททท. ก็ต้องปรับตัวตาม

ส่วนตัวผมก็เคยใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชั่น แต่เรื่องตั๋วเครื่องบินไม่ค่อยได้ใช้มากนัก ส่วนใหญ่จะใช้แอปฯ ที่ช่วยในการหาเส้นทาง การเปรียบเทียบที่พัก ผมก็เหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป คือดูในแง่ของรีวิวไม่ว่าจะแอปฯ ไหน การรีวิวเยอะๆ นั้นมีผลต่อการตัดสินใจผู้บริโภคสูงอยู่เช่นกัน”

 - ทำไม? ต้องมาเที่ยวประเทศไทย

“การท่องเที่ยวคือ การสร้างความสุขอย่างหนึ่ง ประเทศไทยเรามีทรัพยากรท่องเที่ยวสินค้าหลากหลาย ตอบสนองความต้องการได้ทุกรูปแบบ การที่ประเทศไทยมีคนไทยเป็นเจ้าบ้านที่ดีถือว่าเป็นจุดขายสำคัญที่พร้อมรับนักท่องเที่ยว ขอให้มั่นใจได้เลยว่า การเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย คือวิธีการสร้างความสุขที่คุ้มค่าที่สุด อยากให้มาลองประสบการณ์ท่องเที่ยวในประเทศไทย ไม่ใช่แค่มาดูแต่อยากให้มาลองสัมผัสลงไปในรายละเอียด ให้เข้าใจวิถีชีวิตของคนไทย ซึ่งอันนี้คือหัวใจของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยครับ”