ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวกิจกรรม

นีโอฯ พร้อมจัด “อินเตอร์แคร์ เอเชีย 2018” ชวนคนไทยรับมือก่อนวัยเกษียณ – ลุยเที่ยวแบบสูงวัย

นีโอ จับมือ กรมกิจการผู้สูงอายุ และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมจัดงานใหญ่ “อินเตอร์แคร์ เอเชีย 2018” โชว์นวัตกรรม พร้อมสินค้า และบริการ จากผู้ประกอบการชั้นนำทั้งไทยและเทศร่วมจัดแสดง รับมือสังคมวัยเกษียณ คาดเงินสะพัดกว่า 550 ล้านบาท

 นายสืบพงษ์ สมิตทันต์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการ บริษัทเอ็น.ซี.ซี.เอ็กซิบิชั่น ออกาไนซ์เซอร์ จำกัด เปิดเผยในงานแถลงข่าวการจัดงาน อินเตอร์แคร์ เอเชีย 2018 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 กรกฎาคม 2561 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ว่า ขณะนี้ นีโอฯ และหน่วยงานพันธมิตรผู้ร่วมสนับสนุนการจัดงาน และผู้ประกอบการที่จะมาจัดแสดงสินค้า ผลิตภัณฑ์ และบริการที่เกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุ ล้วนมีความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการจัดงานในเดือนหน้า โดยในปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานตลอดระยะเวลา 3 วัน มากกว่า 5,000 คน และจะเกิดการซื้อขายภายในงานไม่น้อยกว่า 550 ล้านบาท

อินเตอร์แคร์ เอเชีย 2018 ถือเป็นเวทีที่สะท้อนให้เห็นถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย นอกเหนือไปจากการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น     กรมกิจการผู้สูงอายุ ภายใต้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งมีนโยบายและการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนการดูแลและพัฒนาผู้สูงอายุ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งมีนโยบายส่งเสริมให้เกิดการลงทุนกิจการด้านสุขภาพ ยารักษาโรค เครื่องมือทางการแพทย์ ตลอดจนกิจการบริการทางการแพทย์ รวมถึงความพร้อมของภาคเอกชน ซึ่งได้มีการเดินหน้าลงทุนผลิตสินค้าและบริการเพื่อรองรับความต้องการของตลาดผู้สูงอายุในประเทศไทย

นอกจากนี้ อินเตอร์แคร์ เอเชีย ยังเป็นเวทีที่แสดงให้นานาประเทศเห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ และธุรกิจบริการด้านสุขภาพและการดูแลผู้สูงอายุของภูมิภาคอีกด้วย      

สำหรับรูปแบบการจัดงานในครั้งนี้ จะแบ่งออกเป็น 5 โซน ประกอบไปด้วยผู้ประกอบการชั้นนำทั้งในประเทศ และจากต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าชมงาน สามารถเลือกชมและซื้อผลิตภัณฑ์  ได้แก่ 1. Homecare & Equipment ซึ่งจะมีอุปกรณ์และเครื่องมือในการดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และผู้พิการ เช่น วิลแชร์ วอร์คเกอร์ อุปกรณ์ในการอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน

2. Rehabilitation จะมีอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับการดูแลช่วยเหลือและปกป้องผู้สูงอายุ เช่น หุ่นยนต์ผู้ช่วย ศูนย์กระดูกและข้อ เครื่องช่วยฟัง

3. Medical Tourism หรือ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น สปา ฟิตเนส และสถานบริการนวดแผนไทย Long stay

4. Service จะมีสินค้าและสถานบริการสำหรับดูแลและช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้พิการ เช่น Nursing Home วีลแชร์ ติดตั้งบนรถสำหรับผู้พิการ โรงพยบาลที่ดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ

5. Nutritional Food ซึ่งจะมีสินค้า และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาหารเสริมและสมุนไพร อาหารเฉพาะโรคมาจัดแดง

นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงสินค้าและบริการของกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตตามความต้องการของผู้สูงอายุ อาทิ อาหารเพื่อสุขภาพ  เช่น อาหารที่มีไขมันต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอล น้ำตาลน้อยหรือไม่มีเลย และมีส่วนประกอบที่ป้องกัน ลดความเสี่ยงโรคที่เกิดกับผู้สูงอายุ เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน  รวมถึงสามารถย่อยได้ง่ายเมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว เป็นต้น รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์  เครื่องใช้ภายในบ้าน ซึ่งต้องมีการออกแบบให้เหมาะสมกับลักษณะทางกายภาพ และวิถีการดำเนินชีวิตของกลุ่มผู้สูงอายุที่สภาพร่างกายเริ่มถดถอย หรือแม้แต่บริการนำเที่ยวสำหรับผู้สูงวัย ซึ่งเป็นโปรแกรมการท่องเที่ยวไม่หักโหมหรือเดินทางไกล เช่น การท่องเที่ยวในเชิงศิลปวัฒนธรรม ทำบุญไหว้พระ ตักบาตร ฟังเทศน์ เป็นต้น

นางธนาภรณ์ พรมสุวรรณ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กล่าวว่า รัฐบาลได้ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของผู้สูงอายุ โดยกรมกิจการผู้สูงอายุได้ขับเคลื่อนนโยบายในการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ตามแนวทางประชารัฐ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ อาทิ สนันสนุนการจ้างงานผู้สูงอายุมีอายุ 60 ปี ขึ้นไป ให้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลกับผู้ประกอบการได้ถึง 100% ของเงินที่จ่ายให้ลูกจ้างสูงอายุที่เข้าทำงาน การสร้างที่พักอาศัยพร้อมสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ การบูรณาการระบบบำเหน็จบำนาญเพื่อผู้สูงอายุ การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ภาคเอกชนที่ประกอบการเกี่ยวกับการจัดสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ การส่งเสริมการประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงการจัดระบบสวัสดิการ และการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ

“การเตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุ มิใช่บทบาทของภาครัฐฝ่ายเดียว การจัดงานอินเตอร์แคร์ เอเชีย 2018  เป็นอีกบทบาทสำคัญที่ภาคเอกชนสามารถมีส่วนร่วมสนับสนุน และยังเป็นการช่วยผลักดันให้คนทั่วไปและผู้ประกอบการทางธุรกิจเห็นความสำคัญและเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับในอีกไม่อีก 3 ปีข้างหน้าที่ไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว” นางธนาภรณ์

นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.เล็งเห็นถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวของกลุ่มผู้สูงวัย (Silver Age) จึงได้ทำเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มนักท่องเที่ยวสูงวัย หรือกลุ่มวัยเก๋า ที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปี ขึ้นไป ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีพร้อมในทุกด้าน ทั้งเรื่องการเงิน เวลา อีกทั้งยังมีความคิด มีเหตุมีผล และมีความเข้าใจในวัฒนธรรม จารีตประเพณีในแต่ละท้องถิ่นเป็นอย่างดี ที่สำคัญเป็นกลุ่มที่พร้อมจะใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพสูง

ทั้งนี้ ททท. ได้เปิดตัวโครงการ “เก๋ายกก๊วน ชวนเที่ยวไทย” ภายใต้แนวคิด “วัยเก๋า ไม่ใช่วัยที่ไปเที่ยวไหนไม่ได้” โดยได้เตรียมความพร้อมสำหรับกลุ่มวัยเก๋า ไว้อย่างลงตัว เพื่อให้สามารถท่องเที่ยวได้อย่างมีความสุขและเหมาะสม ซึ่งจะแนะนำตั้งแต่เรื่องของการเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง แผนการเดินทาง การเตรียมร่างกาย และที่สำคัญคือ เส้นทางในการท่องเที่ยวที่น่าประทับใจใน 5 ภูมิภาค ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เพื่อช่วยกระตุ้นให้กลุ่มคนสูงวัย ที่ยังมีความกังวลในเรื่องการเดินทางหรือสถานที่ท่องเที่ยว กลัวจะไม่เหมาะสมกับช่วงวัยตัวเอง ได้ออกมาเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น  หรือแม้กระทั่งกลุ่มสูงวัยที่ยังมีใจรักในการท่องเที่ยว และเดินทางท่องเที่ยวอยู่แล้ว มีความสะดวกสบายและได้เดินทางหลากหลายมากขึ้น ซึ่งททท.จะนำสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว อาทิ โรงแรม/ที่พัก แหล่งท่องเที่ยว รายการนำเที่ยว หรับผู้สูงวัยมานำเสนอขายภายในงาน อินเตอร์แคร์ เอเชีย 2018 ด้วย

 สำหรับผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ระหว่างวันที่ 12-14 กรกฎาคม 2561 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

แสดงผล 1511 ครั้ง