ททท. ชวนเที่ยวย้อนวันวานกับตำนานเมืองจันท์ในงาน “สุขทุกวัน วิถีจันทบูร” เดินเที่ยวชมประวัติศาสตร์ ชิงของที่ระลึก ชิมอาหารถิ่น ช่วยกันใส่ใจสิ่งแวดล้อม
บ่ายวันนี้ (9 สิงหาคม 2561) ณ ห้องประชุม 1 ชั้น10 อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายกฤษณะ แก้วธำรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. นางดวงเดือน สดแสงจันทร์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดจันทบุรี และนายวีรภัทร์ กีรติโภฌานันท์ ผู้แทนตลาดทุบหม้อ ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “สุขทุกวัน วิถีจันทบูร” เพื่อเป็นการนำเสนอจุดเด่นของจังหวัดจันทบุรีในมุมของวิถีแห่งประวัติศาสตร์ซึ่งผสมผสานกับวิถีชีวิตปัจจุบันได้อย่างลงตัว ชิมอาหารหายาก ช็อปผลิตภัณฑ์ชุมชนผลิตจากวัตถุดิบท้องถิ่น และช่วยกันใส่ใจสิ่งแวดล้อม
นางดวงเดือน สดแสงจันทร์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า จังหวัดจันทบุรี เป็นจังหวัดที่มีความหลากหลายทางทรัพยากร รวมไปถึงทรัพยากรทางการท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีทั้งภูเขาและทะเล อีกทั้งไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร การเดินทางสะดวก มีที่พักอย่างเพียงพอ จึงเป็นจังหวัดที่หลายๆ คนนึกถึงและตัดสินใจเดินทางได้โดยง่าย ซึ่งศักยภาพดังกล่าวสามารถนำไปสู่การเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบอื่นๆ ได้อีกมากมาย ทั้งการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เชิงกีฬา เชิงวัฒนธรรมได้อีกด้วย ซึ่งการจัดงาน “สุขทุกวัน วิถีจันทบูร” ที่ ททท. จัดขึ้นนี้ จะช่วยให้ภาพการท่องเที่ยวของจันทบุรี ครบทุกด้านมากยิ่งขึ้น
นายกฤษณะ แก้วธำรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. กล่าวว่า ททท. ได้ดำเนินการสื่อสารการตลาดให้กับจังหวัดจันทบุรีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้นำเสนอแก่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี (นายวิทูรัช ศรีนาม) โดยนำแนวคิดเดิมของจังหวัดจันทบุรี มาต่อยอดขยายความ คือ “สุขทุกวันที่จันทบุรี” หรือ “Joyful Chanthaburi” เป็นการตอกย้ำภาพจำเดิม และช่วยเสริมให้มีภาพลักษณ์ด้านท่องเที่ยวที่มีความชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจพิเศษ ซึ่งจะขยายไปสู่นักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ ส่งผลให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน กล่าวได้ว่า “ ไม่ว่ามาจันทบุรีเมื่อใด ก็จะได้รับความสุขกลับไป” โดยแบ่งเป็นกลุ่มสินค้าทางการท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรี 5 กลุ่ม ได้แก่ สุขทุกวัน ร้อยพันธุ์ผลไม้ ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ชัดเจนของจันทบุรี เมืองแห่งผลไม้ สุขทุกวันทะเลจันทบุรี จุดเด่นเรื่องธรรมชาติ ป่าเขา และพืชพันธุ์ สุขทุกวัน โลกอัญมณี จันทบุรีมีสถานที่มากมายที่ยังคงมีเรื่องราวของอัญมณี และมีการค้าขายอัญมณีทั้งแบบที่เป็นพลอยดิบ เจียระไนแล้ว หรือทำเป็นเครื่องประดับ สุขทุกวัน เมืองจันท์วันวาน เรื่องนี้เป็นสิ่งที่จันทบุรีโดดเด่นมาก เพราะมีประวัติศาสตร์ ตำนาน ชุมชน ศาสนสถาน อาหารถิ่น ที่สามารถบอกเล่าได้อย่างสมบูรณ์ และสุขทุกวัน ผลิตภัณฑ์ชุมชน ด้วยความสมบูรณ์ของทรัพยากร มีทั้งทะเล ป่าเขา ผลิตภัณฑ์ชุมชนจึงมีความหลากหลาย อาทิ อาหารทะเล พริกไทย อัญมณีและเครื่องประดับ เสื่อจันทบูรที่ขึ้นชื่อ จากนั้น จึงนำมาออกแบบการสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ทั้งในกลุ่มครอบครัว กลุ่มผู้มีความสนใจเฉพาะ กลุ่ม Gen Y โดยใช้ช่องทางหลัก 3 ช่องทาง ได้แก่ Online On Air และ On Ground ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสาร เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงกลุ่ม นำไปสู่นักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพยิ่งขึ้น
สำหรับงาน “สุขทุกวัน วิถีจันทบูร” นี้ เป็นการสื่อสารถึงการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่มีความเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตในปัจจุบัน และได้นำความบันเทิงมาสอดแทรก เพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับกิจกรรมมากขึ้น จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 - 19 สิงหาคม 2561 ณ ตลาดทุบหม้อ วัดพลับ ตำบลบางกะจะ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเป็นมาเชิงประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน อีกทั้ง มีวิถีชุมชนที่เข้มแข็งและมีความพร้อมในการจัดการการท่องเที่ยว ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ กิจกรรมเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยประวัติศาสตร์วัดพลับ (Walking Tour) ให้ผู้ชมงานได้เดินชมโบราณสถานและโบราณวัตถุภายในวัดพลับ ซึ่งมีประวัติที่ยาวนานและมีความสำคัญจนถึงปัจจุบัน โดยจะแจกแผนพับแผนที่เพื่อให้ประทับตราตามจุดต่างๆ ให้ครบ 9 จุด นำมาลุ้นรับรางวัลที่ระลึก วันละ 1,000 ชิ้น รวม 2,000 ชิ้น ประกอบด้วย น้ำพระพุทธมนต์จากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ผลิตภัณฑ์ชุมชนของจังหวัดจันทบุรี และคูปองส่วนลดสำหรับซื้อสินค้าภายในงาน กิจกรรมชมพิพิธภัณฑ์ตำนานแห่งเมืองจันท์ ผู้เข้าชมงานสามารถนำบัตรเข้าชมแหล่งท่องเที่ยว 2 แห่ง ลุ้นรางวัลที่ระลึก ได้แก่ ค่ายเนินวง และ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี จันทบุรี ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลบางกะจะ เนื่องจากบริเวณนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ ที่สำคัญอย่างต่อเนื่องยาวนาน จึงมีประวัติที่น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง กิจกรรมลุ้นรับ “พระยอดธง” ผู้เข้าชมงานสามารถลงทะเบียนบริเวณประตูทางเข้าตลาดทุบหม้อ โดยการเขียนชื่อ – นามสกุล และหมายเลขโทรศัพท์ลงในคูปอง เพื่อลุ้นรับ “พระยอดธง” วันละ 50 องค์ โดยจับรางวัล วันละ 2 รอบ เวลา 14.00 น. และ 20.00 น. บนเวทีใหญ่ ทั้งนี้สงวนสิทธิ์สำหรับผู้ที่อยู่ในบริเวณงานเท่านั้น ซึ่งพระยอดธง เป็นพระสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวบางกะจะ มีประวัติที่เกี่ยวเนื่องกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งแต่ครั้งเป็นพระยาตาก กิจกรรมเพลินชิมเพลินช็อปตลาดทุบหม้อ เป็นการรวบรวมร้านอาหารและผลิตภัณฑ์ชุมชนกว่า 50 ร้าน โดยมีเมนูอาหารและสินค้าที่นำมาขายมากกว่า 200 ชนิด เช่น อาหารเฉพาะถิ่นอย่าง ก๋วยเตี๋ยวผัดยายลั้ง ขนมตึ๋งหนืด หอยนางรมยักษ์จากฟาร์มป้าหลุย-ลุงทม ขนมจากทุเรียน น้ำพริกทุเรียน เป็นต้น เกม “ปิดตาตีหม้อ” เชิญชวนผู้เข้าชมงานร่วมสนุกในเกม “ปิดตาตีหม้อ” บริเวณเวทีเล็กวันละ 2 รอบ เวลา 15.00 น. และ 17.00 น. ผู้ทำภารกิจตีหม้อได้สำเร็จ จะได้รับ 1 สิทธ์ เพื่อลุ้นรับของที่ระลึก 1 ชิ้น กิจกรรมบันเทิง การแสดงมีหลายช่วงและหลายชุด ได้แก่ การแสดงทุบหม้อข้าวเข้าตีเมืองจันท์ การแสดงจากชุมชนบางกะจะ ซึ่งมีการแสดงวันละ 2 ช่วง นอกจากนี้ในวันที่ 18 สิงหาคม 2561 ชมมินิคอนเสิร์ต ต่าย อรทัย และ นิว-จิ๋ว วันที่ 19 สิงหาคม 2561 ชมมินิคอนเสิร์ต ตู่ ภพธร และ ว่าน ธนกฤต
นายวีรภัทร์ กีรติโภฌานันท์ ผู้แทนตลาดทุบหม้อ กล่าวว่า ตลาดทุบหม้อมีความพร้อมในการ จัดงานและต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยเจตนารมณ์ในการสร้างสรรค์ตลาดแห่งนี้ มุ่งเน้นการให้ชุมชนได้มีส่วนร่วม ทั้งสินค้าที่นำมาขาย การจัดการแสดง สินค้าที่ระลึก ภาพถ่ายที่ระลึก รวมไปถึงการจัดการด้านความสะอาด และด้านอื่นๆ ก็ใช้คนในท้องถิ่น ทำให้ลูกหลานที่ออกไปอยู่ต่างถิ่น หันกลับมาช่วยพัฒนาบ้านเกิดของตัวเอง นอกจากอาหารและสินค้าแล้วตลาดทุบหม้อ ยังมีเอกลักษณ์ในด้านการแต่งกายและภาษาที่ใช้อีกด้วย ซึ่งภายในงาน “สุขทุกวัน วิถีจันทบูร” ทางตลาดทุบหม้อ ได้ระดมสินค้าจากท้องถิ่นมาเพิ่มเติม เพื่อให้งานสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์ของดีในชุมชนได้แพร่หลายออกไปในวงกว้าง นายกฤษณะ กล่าวในตอนท้ายว่า งานในครั้งนี้ ททท. ยังได้ดำเนินการในปฏิญญา “เที่ยวไทยเท่ ไม่สร้างขยะ ลด โลก เลอะ” เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ด้วยการงดการใช้ภาชนะพลาสติกทั้งหมด ทั้งนี้ ได้จัดจานสังกะสี แก้วน้ำ เพื่อการใช้หมุนเวียน โดยกำหนดจุดวางภาชนะใช้แล้วเพื่อให้เจ้าหน้าที่นำไปล้าง มีการจัดหาหลอดก้านบัว ทดแทนการใช้หลอดพลาสติก นอกจากนี้ยังมีจุดเติมน้ำดื่มไว้บริการอีกด้วย จึงอยากจะเชิญชวนให้ผู้เข้าชมงานทุกคนนำภาชนะไปเอง โดยเฉพาะกระบอกน้ำ ซึ่งสามารถเติมน้ำได้ไม่อั้น หรือถ้าจะซื้อน้ำดื่ม ก็ใส่กระบอกน้ำ ซึ่งจะลดปัญหาขยะได้เป็นอย่างดี ททท. ต้องการให้เกิดขยะในแหล่งท่องเที่ยวน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย ซึ่งการดำเนินการเช่นนี้ จะเป็นนโยบายหลักในการจัดงานครั้งต่อ ๆไป เพื่อความยั่งยืนของการท่องเที่ยวไทย
แสดงผล 1753 ครั้ง