ททท. จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์การประกวดรางวัลกินรี ครั้งที่ 12 ประจำปี 2562 พลิกโฉมการประกวด ใช้รางวัลกินรีเป็นเครื่องมือในการยกระดับคุณภาพสินค้าการท่องเที่ยวไทย ที่ใครๆ ก็ต้องเที่ยว
เช้าเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2562 ณ โรงแรมรติล้านนา ริเวอร์ไซต์ สปา รีสอร์ท จังหวัดเชียงใหม่ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรมประชาสัมพันธ์การประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) หรือรางวัลกินรี ครั้งที่ 12 ประจำปี 2562 โฉมใหม่ เพื่อสร้างความเข้าใจแนวทางการประกวดและส่งเสริมการตลาด รวมถึงการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ให้แก่ผู้ประกอบการ พร้อมชี้แจงเกณฑ์การตัดสิน ซึ่งได้พัฒนาให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความต้องการ ของนักท่องเที่ยว รวมถึงการใช้รางวัลกินรีเป็นเครื่องมือในการยกระดับคุณภาพสินค้าการท่องเที่ยวไทย
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย หรือ รางวัลกินรี เปรียบเสมือนเครื่องหมายรับรองคุณภาพและยกระดับของสินค้าทางการท่องเที่ยว อีกทั้งเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยอย่างยั่งยืน (Beyond Standard) ซึ่งมีบทบาทในการเป็นคู่คิดและเพื่อนร่วมงาน (Partner) ร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อให้คำแนะนำในการพัฒนาธุรกิจ รวมถึงการต่อยอด ขยายฐานด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้แก่ผู้ที่ได้รับรางวัลมาเป็นเวลามากกว่า 20 ปี สำหรับครั้งที่ 12 นี้ ททท. ได้พัฒนากระบวนการประกวดรางวัล โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ พิจารณาและตัดสินรางวัล รวมถึงการนำองค์ความรู้ กรอบประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ และเสียงสะท้อนจากนักท่องเที่ยวมาประกอบการพิจารณา เพื่อให้สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลกินรีมีคุณภาพที่ผู้เชี่ยวชาญให้การยอมรับและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ นำไปสู่การสร้างกระแสการเลือกใช้สินค้าท่องเที่ยวคุณภาพ ผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างยั่งยืน (Preferred Destination) ตามวิสัยทัศน์ของ ททท.
การประกวดครั้งนี้ได้ปรับลดเหลือ 3 ประเภทรางวัลหลัก มี 12 สาขารางวัลย่อย ประกอบด้วย ประเภท Attraction (แหล่งท่องเที่ยว) แบ่งเป็น 6 สาขา ประเภท Accommodation (ที่พักนักท่องเที่ยว) แบ่งเป็น 4 สาขา ประเภท Health and Wellness Tourism (การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ) แบ่งเป็น 2 สาขา ทั้งนี้ ประเภทรางวัล แบ่งเป็น 2 รางวัล คือ รางวัล Kinnari Gold Award มอบแก่ผู้เข้าประกวดฯ ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินด้วยคะแนนมากกว่าหรือเท่ากับ 85% - 100% ของคะแนนเต็มทั้งหมดของแต่ละสาขา และรางวัล Kinnari Award มอบแก่ผู้เข้าประกวดฯ ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินด้วยคะแนนมากกว่าหรือเท่ากับ 75% - 84.99 % ของคะแนนเต็มทั้งหมดของแต่ละสาขา โดยผลงานที่ได้รับรางวัล Gold 3 ครั้งติดต่อกัน โดยไม่จำเป็นต้องเป็นรางวัลประเภทเดิม จะได้รับรางวัล Hall of Fame ซึ่งจะนับรวมผู้ที่เคยได้รับรางวัลยอดเยี่ยมของครั้งที่ผ่านมา นอกจากนี้กิจกรรมในวันนี้มีการจัด TTA Clinic เพื่อให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมประกวดฯ อีกด้วย
นายสุวรรณชัย ฤทธิรักษ์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาและตัดสินรางวัล และกรรมการ ฯ ประเภทที่พักนักท่องเที่ยว กล่าวถึงการตัดสินในครั้งนี้อยู่ภายใต้กรอบแนวคิด 3 ประเด็นหลัก คือ การท่องเที่ยวเพื่อความยั่งยืน (Sustainability and Responsibility) เสียงสะท้อนจากนักท่องเที่ยว (Voice of Customer: VOC) และความสนใจของกลุ่มนักท่องเที่ยว (Customers Interest) โดยมีผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม ท่องเที่ยวร่วมเป็นคณะกรรมการพิจารณาและตัดสินรางวัล อาทิ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและนวัตกรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน ผู้เชี่ยวชาญด้านแหล่งท่องเที่ยว ผู้เชี่ยวชาญด้านที่พักนักท่องเที่ยว และผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
นอกจากนี้ได้กล่าวถึงรายละเอียดและการเตรียมความพร้อมการสมัครฯ ประเภท Accommodation (ที่พักนักท่องเที่ยว) ซึ่งแบ่งเป็น 4 สาขา ได้แก่ สาขา Luxury Hotel (ลักซ์ซูรี โฮเทล) สาขา Location Hotel (โลเคชั่น โฮเทล) สาขา Resort (รีสอร์ท) และสาขา Design Hotel (ดีไซน์ โฮเทล)
นายชัยสงค์ ชูฤทธิ์ กรรมการฯ ประเภท Attraction (แหล่งท่องเที่ยว) กล่าวว่า รางวัลประเภทแหล่งท่องเที่ยวแบ่งออกเป็น 6 สาขา ได้แก่ สาขา Outdoor Adventure Activity (แหล่งท่องเที่ยวเพื่อการผจญภัย) สาขา Learning and Doing (แหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้) สาขา Nature and Park (แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ) สาขา Fun and Entertainment (แหล่งท่องเที่ยวเพื่อความบันเทิง) สาขา Historical and Culture (แหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม) และสาขา Local and Community (แหล่งท่องเที่ยวชุมชน)
นายอภิชัย เจียรอดิศักดิ์ กรรมการฯ ประเภท Health and Wellness Tourism (การท่องเที่ยว เชิงสุขภาพ) กล่าวว่า รางวัลประเภทการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมี 2 สาขา ได้แก่ สาขา Spa (สปา) และสาขา Wellness Retreat (เวลเนส รีทรีต)
นางสาวฐาปนีย์ กล่าวเพิ่มเติมในรายละเอียดว่า ผู้ที่ได้รับรางวัล Thailand Tourism Awards 2019 ยังได้รับสิทธิประโยชน์ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการขายและพัฒนาคุณภาพของบริการ อีกมากมาย ได้แก่
ด้านการขยายผลสำเร็จด้านการตลาด
1. ผู้ที่ส่งผลงานเข้าประกวดจะได้รับการประเมินสุขภาพธุรกิจ (Business Health Check) พร้อมทั้งคำแนะนำในการปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินธุรกิจจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ
2. ได้รับส่วนลด 50% ค่าเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายที่ ททท. จัดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น งาน Thailand Travel Mart Plus ประเทศไทย งาน World Travel Market สหราชอาณาจักร งาน International Tourism Borse สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เป็นต้น
3. สำหรับสถานประกอบการที่มีผลงานโดดเด่นและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดในพื้นที่ การจัดงานนั้นๆ จะได้รับการเทียบเชิญให้เข้าร่วมงานกิจกรรม Consumer Fair Trade Fair หรือ Road Show ที่ ททท. จัดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ตลอดจนส่งเสริมให้อยู่ในโครงการทัศนศึกษาของสื่อมวลชนและบริษัทนำเที่ยว และโครงการทดสอบสินค้าที่ดำเนินการโดย ททท.
4. จัดทำแคมเปญส่งเสริมการตลาดและการขายร่วมกับผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล อาทิ กิจกรรม Kinnari People Choice Awards ค้นหาสุดยอดสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย กิจกรรมส่งเสริมการขาย ณ จุดให้บริการ เป็นต้น
5. การจัดอบรมหรือ Workshop พัฒนาศักยภาพด้านการแข่งขัน โดยคัดเลือกหัวข้อจากฐานข้อมูลการพิจารณาและตัดสินรางวัล เพื่อช่วยปิดช่องว่างในการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้ที่ได้รับรางวัล ทั้งนี้ การคัดเลือก ผู้เข้าอบรมจะต้องสอดคล้องกับหัวข้อการจัดอบรม
ด้านการขยายผลประชาสัมพันธ์
1. ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออฟไลน์และออนไลน์ของ ททท. อาทิ อนุสาร อสท. เพจ Amazing Thailand เพจ TAT Contact Centre เพื่อนร่วมทาง และสื่อที่ ททท. สนับสนุน
2. จัดทำเครื่องมือทางการตลาด อาทิ เอกสาร แผ่นพับ หนังสือ ของ ททท. รวมถึงการประกาศผล ผู้ที่ได้รับรางวัลฯ พร้อมตราสัญลักษณ์และบทความสัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ของรางวัลฯ และ ททท.
ผู้สนใจศึกษารายละเอียดเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการและสมัครทางออนไลน์หรือดาวน์โหลดใบสมัครที่ www.tourismthailand.org/tourismawards หรือ www.facebook.com/thailandtourismawards ในกรณีที่ไม่สะดวกสมัครทางออนไลน์ สามารถส่งใบสมัครพร้อมเอกสารประกอบการคัดเลือกได้ด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์ ได้ที่ กองส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เลขที่ 1600 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 หรือ สำนักงาน ททท. ส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ วงเล็บมุมซอง “การประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 12 ประจำปี 2562” ทั้งนี้ จะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2562 และจัดพิธีมอบรางวัลในวันที่ 27 กันยายน 2562 ซึ่งจะเป็นกิจกรรมหนึ่งในวันการท่องเที่ยวโลก (World Tourism Day) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2250 5500 ต่อ 4471-74 โทรสาร 0 2250 5694 หรือ โทร 1672 เพื่อนร่วมทาง
แสดงผล 1612 ครั้ง