ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวกิจกรรม

‘มิชลิน ไกด์’ ประกาศขยายตัวสู่เชียงใหม่ ในการจัดทำคู่มือฉบับปี 2563

มิชลินประกาศความพร้อมในการจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับปี 2563 ในประเทศไทย โดยรุกขยายขอบเขตการคัดสรรแนะนำร้านอาหารและที่พักไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้คู่มือฉบับที่ 3 ของไทยซึ่งมีกำหนดเปิดตัวปลายปีนี้ในชื่อ
มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา (The MICHELIN Guide Bangkok, Chiang Mai, Phuket & Phang-Nga 2020) สะท้อนเอกลักษณ์ที่แตกต่างหลากหลายของวัฒนธรรมอาหารใน 3 ภูมิภาคของไทย ทั้งภาคกลาง ภาคใต้ และภาคเหนือ

 

            นายเสกสรรค์ ไตรอุโฆษ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามมิชลิน จำกัด และเลขาธิการกลุ่มมิชลินประจำเอเชียตะวันออกและออสเตรเลีย เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ของไทย มีความน่าสนใจในฐานะแหล่งมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมและอาหารที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ  อาหารท้องถิ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและโรงแรมที่พักที่สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นอย่างโดดเด่นเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูด ‘มิชลิน ไกด์’ ให้ตัดสินใจเข้ามาดำเนินการสำรวจ คัดเลือก และจัดอันดับร้านอาหารและที่พักในเชียงใหม่

 

        “เนื้อหาของคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับใหม่ซึ่งจะครอบคลุมจังหวัดเชียงใหม่ นอกเหนือจากจังหวัดที่มีอยู่เดิม คือ กรุงเทพฯ  ภูเก็ต และพังงา ตอกย้ำให้เห็นถึงความหลากหลายของอาหารไทยในแต่ละภูมิภาค ซึ่งแตกต่างกันไปตามสภาพอากาศ ภูมิประเทศ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และการผสมผสานของเชื้อชาติต่างๆ  ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารที่น่าตื่นตาตื่นใจ” นายเสกสรรค์ กล่าว

 

               เชียงใหม่สืบสานวัฒนธรรมล้านนาในหลายด้าน ซึ่งรวมถึงด้านอาหารและสถาปัตยกรรม อีกทั้งตลอดระยะเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมายังได้ซึมซับรับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากประเทศและกลุ่มชาติพันธุ์รอบข้าง เช่น มอญ เขมร ลาว และเมียนมา เอาไว้         ด้วยรากฐานดังกล่าวปัจจุบันเชียงใหม่ได้เติบโตกลายเป็นเมืองใหญ่ที่ทันสมัย วงการอาหารของเชียงใหม่พัฒนาโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง มีร้านอาหารเก๋ๆ จำนวนมาก ทั้งยังมีอาหารนานาชาติให้เลือกสรรมากมาย  อีกทั้งเชียงใหม่ยังเป็นที่ตั้งของโครงการหลวงจำนวนมากที่สุดถึง 27 แห่งในเขตภาคเหนือตอนบน จึงเป็นแหล่งเพาะปลูกผัก ผลไม้ และสมุนไพรที่สำคัญของประเทศ  ร้านอาหารในเมืองเชียงใหม่จึงได้เปรียบในแง่การเข้าถึงวัตถุดิบที่สดใหม่สามารถนำเสนออาหารเทรนด์สุขภาพภายใต้แนวคิด “ฟาร์ม-ทู-เทเบิล” (Farm-to-Table) ได้อย่างแท้จริง และการนำเสนอความคุ้มค่าเชิงราคา  

 

            ในส่วนของอุตสาหกรรมบริการ เชียงใหม่ยังเป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยมีทางเลือกที่หลากหลายในการพักแรมให้เลือกตามงบประมาณและรสนิยมที่แตกต่างกัน ตั้งแต่โฮสเทลและโฮมสเตย์ ไปจนถึงโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว  อีกทั้งที่พักส่วนใหญ่ยังโดดเด่นด้วยการตกแต่งภายในและสถาปัตยกรรมที่สะท้อนเสน่ห์และอัตลักษณ์ของท้องถิ่น  ปัจจัยด้านอาหารและที่พักเหล่านี้ล้วนส่งเสริมให้เชียงใหม่มีสีสันและคึกคักจนสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้มาเยือนเพิ่มมากขึ้นทุกปี

 

               นายกฤษณะ แก้วธำรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “จุดเด่นเรื่องอาหารเพียงเรื่องเดียวก็เป็นเหตุผลที่ดีพอสำหรับนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาเยือนเชียงใหม่...เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นจุดหมายปลายทางด้านอาหารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของไทยแล้ว  อย่างไรก็ตาม เชียงใหม่ยังมีจุดเด่นอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรม  ดังนั้น การท่องเที่ยวเชิงอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับปี 2563 จะสร้างกระแสให้เชียงใหม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวในเชิงลึกมากขึ้น และกลายเป็นแม่เหล็กด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารของไทยที่สำคัญอีกแห่ง”

 

ผู้สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ได้ที่: guide.michelin.com/th/en/bangkok หรือติดตามข่าวสารล่าสุดของ ‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา’ ได้ทางเฟซบุ๊ค: facebook.com/MichelinGuideThailand

 

รูปจากงานแถลงข่าว สามารถดาวน์โหลดได้ที่: bit.ly/2YTvuLQ.

****************************

เกี่ยวกับมิชลิน

มิชลิน ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมยางรถยนต์ มุ่งมั่นส่งเสริมการสัญจรของลูกค้าอย่างยั่งยืน ออกแบบและจัดจำหน่ายยางที่เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด ตลอดจนให้บริการและโซลูชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งครอบคลุมการให้บริการทางดิจิตอล การจัดทำคู่มือและแผนที่สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร รวมถึงการพัฒนาวัสดุทางเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมการสัญจร กลุ่มมิชลินมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแกลร์มง-แฟร็อง ประเทศฝรั่งเศส และมีสำนักงานสาขาอยู่ใน 170 ประเทศ โดยมีพนักงาน 117,400 คนทั่วโลก และมีโรงงานผลิต 121 แห่งใน 17 ประเทศ ซึ่งผลิตยางรวมกันได้สูงถึง 190 ล้านเส้นในปี 2560 ทั้งนี้ กลุ่มมิชลินได้จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.michelin.co.th

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ: อลงกรณ์ ศรีชื่น โทร. 0 2700 3232 อีเมล์ alongkorn.srichuen@michelin.com

แสดงผล 1673 ครั้ง