ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวกิจกรรม

งานมาฆปูรมีศรีปราจีน ครั้งที่ 34 ประจำปี 2563 1 – 9 กุมภาพันธ์ 2563 ณ โบราณสถานสระมรกต ตำบลโคกไทย อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครนายก ขอเชิญร่วมงานบุญที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัดปราจีนบุรี เวียนเทียนรอบรอยพระพุทธบาทคู่ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ เที่ยวตามรอย​อารยธรรมทวารวดี สักการะหลวงพ่อทวารวดี ต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ ในงาน“มาฆปูรมีศรีปราจีน”ครั้งที่ 34 ประจำปี 2563 วันที่  1 – 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 ณ  โบราณสถานสระมรกต ตำบลโคกไทย อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี 

 

มาฆปูรมีศรีปราจีน”ครั้งที่ 34 จัดโดยจังหวัดปราจีนบุรี ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดปราจีนบุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี อำเภอศรีมโหสถ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ประชาชนในจังหวัดปราจีนบุรี และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครนายก  เพื่ออนุรักษ์และสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม เนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา  บูชาและน้อมรำลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ รวมทั้งคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของจังหวัดปราจีนบุรี และเป็นการสืบทอดรักษาพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติไทยให้คงอยู่ต่อไป

 

ภายในงานมีกิจกรรมทำบุญไหว้พระ สักการะรอยพระพุทธบาทคู่ สักการะพระบรมสารีริกธาตุ การบวชเนกขัมมะ กิจกรรมเดินธุดงค์และปฏิบัติธรรมของพระภิกษุสงฆ์ สามเณร และประชาชน แล้วยังมีกิจกรรมรถรางนำเที่ยวที่จัดบริการทุกวันๆ ละ 6 รอบๆ ละ 1 ชั่วโมง ช้อปผลิตภัณฑ์โอทอปของดีจังหวัดปราจีนบุรี และ เพลิดเพลินไปกับตลาดวิถีถิ่นวิถีไทย “ตลาดเก่าวัยเก๋า ศรีมโหสถ โดย ททท.สำนักงานนครนายก ในวันที่ 4 – 8 กุมภาพันธ์ 2563

 

การจัดงาน เทศกาลมาฆปูรมีศรีปราจีน เริ่มจัดมาตั้งแต่ปี 2530 โดยกรมศิลปากร ได้เข้าขุดแต่งและบูรณะโบราณสถานวัดสระมรกตแห่งนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2529 และได้ขุดค้นพบรอยพระพุทธบาทคู่ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย สันนิษฐานว่า เป็นสมัยทวารวดี และนับแต่นั้นมา จังหวัดปราจีนบุรี ก็ได้จัดงานมาฆปูรมีศรีปราจีนมาโดยตลอด จนถึงปัจจุบัน ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 34

สำหรับรายละเอียดของกิจกรรมต่างๆ ในงานเทศกาลมาฆปูรมีศรีปราจีน มีดังนี้

•กิจกรรมบวชเนกขัมมะ วันที่ 1 – 4 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 – 16.00 น.

•กิจกรรมนำเที่ยวเมืองโบราณศรีมโหสถ (รอยพระพุทธบาทคู่ –ต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ - สระแก้ว สระมรกต และนมัสการหลวงพ่อทวารวดี ในวันที่ 1 – 8 กุมภาพันธ์ 2563 จำนวน 6 เที่ยวต่อวัน เวลา 10.00 น./ 11.00 น./12.00 น./13.00 น./ 14.00 น./ 15.00 น. และ 16.00 น.  สอบถามรายละเอียด/จองรถนำเที่ยวโบราณสถานศรีมโหสถ ติดต่อ คุณศรัญญาส เกตุประสม โทร. 094 875 6931 หรือ คุณมนต์ชัย พันธ์พรหม โทร. 084 694 5346

•การสาธยายพระไตรปิฎก วันที่ 1– 8 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 – 20.00 น.

  • ตลาดวิถีถิ่นวิถีไทย ตลาดเก่า วัยเก๋า ศรีมโหสถ วันที่ 4 – 8 กุมภาพันธ์ เวลา 16.00 – 20.00 น. โดย ททท.สำนักงานนครนายก  กับบรรยากาศตลาดย้อนวันวาน ตลาดงานบุญรุ่นคุณตาคุณยายยังสาว โดยพ่อค้าแม่ขายในท้องถิ่นมาร่วมกันขายอาหาร ขนม เครื่องดื่ม ใช้ภาชนะจากวัสดุธรรมชาติ และใช้ซ้ำ ….เป็นการร่วมทำบุญและรักษ์โลก มาเที่ยว ชิม ช้อปในงานบุญ
  • กิจกรรมเวียนเทียนและแสดงพระธรรมเทศนาโอวาทปาติโมกข์ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ เวลา 18.00 -19.00 น.
  •   กิจกรรมเดินธุดงค์และปฏิบัติธรรมของพระภิกษุสงฆ์ สามเณร และประชาชน ในวันที่ 1- 6 กุมภาพันธ์ ณ วัดต่างๆ ในจังหวัดปราจีนบุรี และไปสิ้นสุด ณ สถานที่จัดงาน โบราณสถานสระมรกต

 

นอกจากงานเที่ยวมาฆปูรมีศรีปราจีน และแหล่งโบราณสถานเมืองศรีมโหสถในบริเวณใกล้เคียงแล้ว สถานที่ต่างๆ ที่ต้องห้ามพลาด แวะเยี่ยมชม เพื่อเที่ยวเมืองสมุนไพรปราจีนบุรี อารยธรรมทวารวดี และนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดปราจีนบุรี ดังนี้ 

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี :  รู้จักปราจีนบุรีเมืองทวารวดี แห่งภูมิภาคตะวันออก เยี่ยมชมโบราณวัตถุชิ้นสำคัญในภูมิภาคตะวันออก  สักการะพระคเณศ เก่าแก่แห่งเมืองศรีมโหสถ  ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติประจำภูมิภาคภาคตะวันออก  ที่รวบรวมศิลปะโบราณวัตถุที่ค้นพบในจังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดในภูมิภาคตะวันออก มีโบราณวัตถุเป็นจำนวนมาก 

 

ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ต่อเนื่องมาจนถึงรัตนโกสินทร์ เปิดบริการวันพุธ – วันอาทิตย์  เวลา 09.00 – 16.00 น. ค่าเข้าชม คนละ 30 บาท ผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไปเข้าชมฟรี

โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร : โรงพยาบาลนำร่องเรื่องการแพทย์แผนไทย ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ประเภทการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รางวัลยอดเยี่ยมสปาภูมิปัญญาไทย โดยใช้สมุนไพรบำบัดยารักษาโรค มีการนวด อบ ประคบ และฝังเข็ม แปรรูปสมุนไพรไทยเป็นเวชภัณฑ์และเครื่องสำอาง ทั้งยังมีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย ชมตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร สถาปัตยกรรมยุโรปแบบบาโร้ค (Baroque) ที่เคยใช้เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลายพระองค์คราเสด็จมณฑลปราจีนบุรี โดยเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร ศูนย์การรวบรวมอนุรักษ์ตำราไทย สมุนไพรไทย การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรี เปิดบริการทุกวันเวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น.

 

บ้านเล่าเรื่อง เมืองสมุนไพรปราจีนบุรี ร้านอาหารที่มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มสมุนไพรไว้คอยบริการหลากหลายรายการ  บ้านไม้เก่า ๆ ที่ถูกเปลี่ยนสภาพมาเป็นสถานที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาของเมืองปราจีนบุรี เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมประเพณี รวมถึงภูมิปัญญาด้านสมุนไพรของคนปราจีนบุรี สื่อสารบอกเล่าเรื่องราวของคนรุ่นเก่าสู่คนรุ่นใหม่โดยมีสมุนไพรเป็นที่ยึดโยงผู้คนในชุมชนให้เข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้กัน

 

นมัสการหลวงพ่ออภัยทาน  ณ วัดแก้วพิจิตร วัดที่มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมและลวดลายประดับอาคารผสมผสานระหว่างศิลปะไทย จีน ยุโรป และเขมร สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๒ โดยเศรษฐีนีใจบุญชาวปราจีนบุรีชื่อนางประมูล โภคา  (แก้ว ประสังสิต) ภรรยาของขุนประมูลภักดี ต่อมา เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ได้สร้างพระอุโบสถหลังใหม่เพื่อทดแทนหลังเก่าที่ชำรุดผุพัง และพระประธาน

 

ภูมิภูเบศร ศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพบางเดชะ แวะจิบกาแฟ เมนูสมุนไพรบำรุงกำลัง และเรียนรู้เรื่องสมุนไพร  กิจกรรม DIY กิจกรรมเรียนรู้สมุนไพรทำได้เอง  ณ  ภายในพื้นที่อุทยานฯ ได้จัดส่วนการแสดงออกเป็น 3  โซน  ได้แก่  พิพิธภัณฑ์หมอไทย (หมื่นชำนาญแพทยา)  หรือ เรือนหมอพลอย  หมอหลวงรัชกาลที่ 5 เป็นเรื่องไม้เดิมอายุกว่า 100 ปี  โดยใช้หลักแนวคิด  “บ้านเป็นยา” ที่สร้างความสมดุลให้กับธาตุทั้ง 4 ของร่างกาย เปิดบริการทุกวันเวลา  08.30 – 16.30  น. 

 

ต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ นมัสการต้นพระศรีมหาโพธิเ ก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย  สันนิษฐานว่าเป็นหน่อจากต้นพระศรีมหาโพธิ สถานที่ตรัสรู้จากพุทธคยา ประเทศอินเดีย มีอายุกว่า ๒,๐๐๐ ปี ซึ่งนำเข้ามาปลูกเป็นต้นแรก ตามตำนานกล่าวว่าพระเจ้าทวานัมปะยะดิษฐ์ เจ้าครองเมืองศรีมโหสถในสมัยขอมเรืองอำนาจทรงเลื่อมใสในพุทธศาสนา จึงได้ส่งคณะทูตเดินทางไปขอกิ่งต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับเมื่อคราวตรัสรู้จากเจ้าผู้ครองนครปาตุลีบุตร ประเทศอินเดียแล้วนำกิ่งโพธิ์นั้นมาปลูกที่วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ ปัจจุบันใช้เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดปราจีนบุรี 

 

พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์  หรือ พิพิธภัณฑ์ตะเกียง ‘ก่อตั้งโดย ณรงค์ อยู่สุขสุวรรณ์ พ่อค้าของเก่าวัย 67 ที่มีตะเกียงมากกว่า 10,000 ดวง จากการรับซื้อตะเกียงจากชาวบ้านเพื่อแยกส่วนขายเศษทองเหลืองราคาถูก และหันมาสะสม และยังเป็นที่เก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของผู้คนในสมัยก่อน พระเครื่องของจังหวัดปราจีนบุรี  เหรียญ ธนบัตรเก่า ตู้แบบต่างๆ เช่น ตู้ไม้สัก โต๊ะเครื่องแป้ง พัดลมที่ใช้น้ำมันก๊าด  ล็อตเตอรี่สยามรัฐรุ่นแรกมีอายุกว่า 70 ปี หยุดทุกวันจันทร์ ยกเว้นวันจันทร์ที่เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์  เปิดบริการเวลา 09.00 -17.00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 30 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 100 บาท  https://readthecloud.co/yusuksuwan-museum/

 

วัดแจ้ง  อีกหนึ่งวัดงามและเก่าแก่แห่งเมืองปราจีนบุรี นมัสการหลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร ศิลปะเชียงแสน พระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดปราจีนบุรี ได้มาเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) โปรดเกล้า ฯ ให้ เจ้าพระยาบดินทร์เดชา(สิงห์ สิงหเสนี) สมุหนายกเป็นแม่ทัพใหญ่คุมทหาร 4 กองทัพไปช่วยเขมรทำสงครามปราบทัพญวน ซึ่งปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในวิหารแบบล้านนา นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีองค์พระธาตุเจดีย์ สร้างอยู่กลางน้ำ จำลองมาจากพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม ที่ด้านในมีพระบรมสารีริกธาตุ

นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลและเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงก่อนเดินทางได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก โทร. 0-3731-2282, 0-3731-2284 ได้ทุกวัน เวลา 08.30–16.30 น. หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.tat8.com ,www.facebook.com/tatnayokfans

แสดงผล 1455 ครั้ง