รมว.ท่องเที่ยวหวังใช้ซิตี้รันเป็นกิจกรรมกระตุ้นความคึกคัก 5 เมืองใหญ่ ก่อนเปิดประเทศช่วงปลายปี
ททท.จัดกิจกรรม “ซิตี้รัน...มันส์ฟันเว่อร์” ส่งท้ายไตรมาสแรกของปี สุดประทับใจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ปลื้มกระแสซิตี้รันพุ่ง มีผู้มาร่วมกิจกรรมรวมทะลุเป้าเกิน 13,000 คน มั่นใจเดินถูกทาง มอบนโยบายให้ ททท. จัดกิจกรรมปลุกกระแสการท่องเที่ยวเชิงกีฬาเพิ่มเติมทั้ง 4 ภาค หวังกระตุ้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวไทยให้ต่อเนื่อง ก่อนเปิดประเทศช่วงตุลาคม 2564 นี้ ด้านรองผู้ว่า ททท. ขานรับเตรียมตั้งคณะทำงานศึกษาข้อมูลเพื่อนำเสนอต่อไป เบื้องต้นคาดใช้ 5 เมืองท่องเที่ยวหลัก จ.ภูเก็ต เชียงใหม่ กระบี่ พัทยา สมุย หวังปั้นเป็นกิจกรรมกระตุ้นกระแสท่องเที่ยวเชิงกีฬารูปแบบใหม่ คาดมีผู้ร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าครึ่งแสนคน
(วันที่ 4 เมษายน 2564) ณ เสาชิงช้า กรุงเทพมหานคร: นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), นางทิพวรรณ นิธิเจษฎาวงศ์ ผู้อำนวยการมิชลินไกด์ ประเทศไทย, นายกอบเกียรติ แสงวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยแลนด์ไตรลีก ผู้จัดงานฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร, เหล่านักวิ่งจากชมรมวิ่งทั่วกรุงเทพฯ และสื่อมวลชน ร่วมกิจกรรมวิ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬารูปแบบใหม่ ภายใต้ชื่อ “อะเมซิ่งไทยแลนด์ ซิตี้รัน...มันส์ฟันเว่อร์” ที่ถูกจัดมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของกิจกรรม โดยคณะได้เริ่มวิ่งจากเสาชิงช้า เพื่อไปเก็บคะแนนในจุดเช็คพ้อยท์ตลอดเส้นทาง อาทิ ลานคนเมือง กรุงเทพมหานครเข้าสู่ถนนกัลยาณ-ไมตรี (กระทรวงกลาโหม), สะพานปีกุน โดยระหว่างทาง รัฐมนตรีฯ ยังได้แวะทักทายร้านอาหารชื่อดังที่ได้รับการรับรองจาก “มิชลิน ไกด์” เช่น ร้านแซ่พุ้น, ร้าน ก.พานิช ก่อนที่จะมาแวะรับประทานอาหารเช้าที่ ร้านยี่ สับ หลก ร้านอาหารชื่อดังในย่านดังกล่าว และมอบของที่ระลึกเป็นกำลังใจให้แก่ร้านชื่อดังทั้ง 3 ร้านอีกด้วย
"กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นหนึ่งในกระทรวงหลักที่มีหน้าที่เตรียมความพร้อมในการเปิดรับกลุ่มนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ภายใต้เงื่อนไขด้านการสาธารณสุขที่ต้องระมัดระวังขั้นสูงสุด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สามารถเกิดขึ้นภายในประเทศได้อีกเป็นระลอก ดังนั้น การจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเดินทางมาท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ภายในประเทศ จึงต้องออกแบบให้ดี และมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งทางด้านการสาธารณสุขและด้านเศรษฐกิจควบคู่กันไป”
“กิจกรรมวิ่ง ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่จะช่วยให้เกิดการหมุนเวียนในภาคเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น อีกทั้งยังเป็นการทำให้เกิดกระแสการเดินทางมาท่องเที่ยวข้ามภูมิภาคได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากความสำเร็จของการจัดมาราธอนที่บุรีรัมย์ ที่สามารถดำเนินการไปได้อย่างคู่ขนานไปกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิค-19 มีประชาชนเดินทางไปร่วมแข่งขันถึง 20,000 คน ก็ถือเป็นตัวอย่างที่ดี และสร้างความมั่นใจในการบริหารงานด้านการท่องเที่ยวและสาธารณสุขของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี”
“ตนขอแสดงความชื่นชน ททท. ที่สามารถจัดกิจกรรมนำร่องในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังอยู่ในช่งงเฝ้าระวังสูง เมื่อปลายปี 63 ที่ผ่านมา โดยสามารถจัดงานออกมาได้ดี มีการป้องกันตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขในทุกขั้นตอน จนทำให้ประชาชนทั่วไป และเหล่านักวิ่งเป็นจำนวนมากออกมาร่วมในกิจกรรม ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมนำร่องให้ส่วนภูมิภาคต่างๆ นำเอาโมเดลของการจัดงานแบบนี้ไปใช้ได้ และได้มอบหมายให้ ททท. จัดทำโครงการวิ่งซิตี้รัน ในรูปแบบนี้ โดยให้ไปจัดในภาคต่างๆ ทั้ง 4 ภาค โดยให้แนวคิดคร่าวๆว่า ....จากเมืองกรุง สู่เมืองรอง.... และตั้งเป้าว่าจะมีประชาชนที่ชื่นชอบในสุขภาพโดยเฉพาะการวิ่งมาร่วมในโครงการสัก 1 แสนคน” นายพิพัฒน์กล่าว
ด้านนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า “กิจกรรม ซิตี้รัน...มันส์ฟันเว่อร์” ถือเป็นกิจกรรมที่มีจุดขายของตัวเอง เพราะนอกจากจะสามารถดึงดูดให้ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยหรือชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย ให้ความสนใจและออกมาร่วมกิจกรรมทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ของทุกๆ สัปดาห์แล้ว ยังก่อให้เกิดการใช้สอยขึ้น เพราะระหว่างทางทุกคนต้องแวะซื้อน้ำ แวะทานอาหาร ฯลฯ ซึ่งถือว่านอกจากจะช่วยให้ประชาชนเกิดสุขภาพที่ดี แข็งแรง และปลอดภัยโรคภัยไข้เจ็บแล้ว ยังเป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย”
จากโครงการนำร่องนี้ ททท. จะตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อศึกษาถึงรายละเอียดต่างๆ ในการนำเอากิจกรรม “อะเมซิ่งไทยแลนด์...ซิตี้รัน” ไปจัดในส่วนภูมิภาคต่างๆ แล้วจะรีบนำมาเสนอท่านรัฐมนตรีฯ ต่อไป คิดว่าจะนำไปจัดในจังหวัดเป้าหมายที่ ททท. กำหนดเป็นจังหวัดนำร่องในการระบนักเที่ยวต่างชาติ นั่นคือ จังหวัดภูเก็ต, จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดกระบี่, เมืองพัทยา และเกาะสมุย คาดว่าจะสามารถจัดได้ในช่วงไตรมาศที่ 3 (เดือนกรกฎาคม-กันยายน) เพื่อใช้เป็นกิจกรรมสร้างกระแสความตื่นตัวด้านการท่องเที่ยวโดยใช้กิจกรรมกีฬาเป็นเครื่องมือ ตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 50,000 คน ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก” รองผู้ว่าฯ ททท. กล่าวทิ้งท้าย
แสดงผล 1427 ครั้ง