ททท. จับมือ กองทัพเรือ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ส่งเสริมความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ทางทะเลและส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตรับผิดชอบของกองทัพเรือ
บ่ายนี้ (28 กันยายน 2564) กองทัพเรือ โดยพลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การส่งเสริมความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยทางทะเลและการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตรับผิดชอบของกองทัพเรือ พร้อมกันนี้ นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. พลเรือเอก บวร มัทวานุกูล ประธานกรรมการบริหารการท่องเที่ยวกองทัพเรือ พลเรือเอก เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ ร่วมในพิธีฯ เพื่อเสริมสร้างมาตรการความปลอดภัยในการเดินทางทางทะเล รวมถึงประชาสัมพันธ์มาตรการและแหล่งท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ณ ห้องรับรอง กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากหลายปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยประสบกับเหตุการณ์อุบัติเหตุจากการท่องเที่ยวหลายครั้ง ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการเดินทางท่องเที่ยวไทย ในการนี้ ททท. เล็งเห็นถึงความสำคัญด้านความปลอดภัยในการเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางทะเล ทั้งฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน จึงร่วมมือกับกองทัพเรือ จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อร่วมกันดูแลความปลอดภัยในการเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลและให้ความช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยวในกรณีฉุกเฉิน ภายใต้ความร่วมมือนี้ ททท.จะให้การสนับสนุนการดำเนินงานมาตรการความปลอดภัยและกิจกรรมด้านการประชาสัมพันธ์เป็นสำคัญ ทั้งประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่กองทัพเรือ ตลอดจนกิจกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลเพื่อสร้างจิตสำนึกถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยตามแผน BCG Economy Model ของรัฐบาลและทิศทางการดำเนินงานของ ททท. ในปี 2565 ด้วย
พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ เผยถึงขอบเขตความร่วมมือครั้งนี้ว่า กองทัพเรือมียินดีเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากกองทัพเรือเป็นหน่วยงานความมั่นคงที่มีหน้าที่ปกป้องอธิปไตย และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ดังนั้น กองทัพเรือจึงมีความพร้อมและมีศักยภาพในการดูแลความปลอดภัย ตลอดจนให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวกรณีประสบภัยทางทะเล โดยให้การจะสนับสนุนด้านต่าง ๆ อาทิ บุคลากร สถานที่ อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นไปตามมาตรการด้านความปลอดภัยทางทะเลทั้งฝั่งทะเลอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน อาทิ การจัดเรือและอากาศยานในการตรวจการณ์และลาดตระเวนในทะเล การจัดหมู่เรือบรรเทาสาธารณภัย เพื่อพร้อมให้การช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่หรืออุบัติภัย มีหน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือให้การดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวตามเกาะต่าง ๆ ซึ่งกองทัพเรือมีสายด่วน 1696 โดยนักท่องเที่ยวสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ กองทัพเรือจะร่วมกับ ททท. วางแผนมาตรการและประชาสัมพันธ์ภารกิจการรักษาความปลอดภัย ส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ของกองทัพเรือตามฝั่งทะเลอันดามันที่มีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย อาทิ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 จังหวัดพังงา ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ และประภาคารเกาะตะเภาน้อย จังหวัดภูเก็ต เป็นต้น
โดยในปี 2563 ทั้ง 2 หน่วยงานได้เริ่มดำเนินโครงการ “สัตหีบเมืองต้นแบบ ท่องเที่ยววิถีใหม่ New Normal” มุ่งเน้นประชาสัมพันธ์การให้บริการตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย (Amazing Thailand Safety and Health Administration : SHA) และ ททท. ได้มอบตรามาตรฐาน SHA ประเภทนันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยวแก่แหล่งท่องเที่ยวของกองทัพเรือ จังหวัดชลบุรี จำนวน 4 แหล่ง ได้แก่ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ ภายใต้การดูแลของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา เกาะและทะเลไทย (เกาะแสมสาร) ภายใต้การดูแลของกองเรือยุทธการ (กร.) ศูนย์บริการหาดทรายแก้ว ภายใต้การดูแลของโรงเรียนชุมพล หาดนางรำและหาดนางรอง ภายใต้การดูแลของฐานทัพเรือสัตหีบ (ฐท.สส.) ทั้งนี้ เตรียมขยายการดำเนินงานสู่พื้นที่อื่น ๆ อาทิ ภูเก็ต พังงา กระบี่ เพื่อตอกย้ำมาตรฐานด้านสุขอนามัย ฟื้นคืนความมั่นใจในการเดินทางให้แก่นักท่องเที่ยว พร้อมทั้งผลักดันให้ประเทศไทยคงอยู่ในใจนักท่องเที่ยว (Top of mind) ด้วยภาพลักษณ์ที่แตกต่าง ปลอดภัย และประทับใจ