ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวองค์กร

การท่องเที่ยวแห่งประเทศ (ททท.) ขานรับนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2565 เร่งฟื้นตลาดภูมิภาคยุโรป ลุยจัดกิจกรรม Roadshow 3 เมืองสำคัญ ได้แก่ กรุงอัมสเตอร์ดัม ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส และกรุงเกนต์ ราชอาณาจักรเบลเยียม เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดให้ผู้ประกอบการไทย (Seller) ได้พบปะและเจรจาธุรกิจกับบริษัทนำเที่ยวภูมิภาคยุโรป พร้อมชูแนวคิด “Amazing Thailand New Chapters” หวังดันรายได้ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.5 ล้านล้านบาท และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 7 -10 ล้านคน-ครั้ง ภายในสิ้นปี 2565 

นายยุทธศักดิ์  สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลประกาศนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ททท. เล็งเห็นถึงโอกาสในการเดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้เศรษฐกิจไทยในภาพรวมได้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน โดย ททท. นำแนวคิด “Amazing Thailand New Chapters” มุ่งพลิกโฉมการท่องเที่ยวไทยสู่มิติใหม่ ผ่านความพิเศษของเมนูประสบการณ์ A – Z ที่มีคุณค่าเหนือราคา มุ่งเพิ่มสัดส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรป ซึ่งถือตลาดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุดหลังจากเปิดประเทศไทย ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา และเป็นตลาดที่ฟื้นตัวได้ก่อน ด้วยปัจจัยสนับสนุนของอัตราการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาตรการผ่อนคลายการเดินทางและการให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศ ในการนี้ ททท. จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย Amazing Thailand New Chapters Roadshow ระหว่างวันที่ 23 - 25 พฤษภาคม 2565 ไปยัง 3 เมืองสำคัญของภูมิภาคยุโรป ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมทางการตลาดที่ ททท. ดำเนินการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยด้วยการท่องเที่ยวที่ได้ดำเนินการมาโดยตลอด สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ เริ่มต้นด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขาย “Amazing Thailand New Chapters Roadshow to Amsterdam” ณ กรุงอัมสเตอร์ดัม ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 โดย ททท. ได้นำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย (Sellers) จำนวน 13 ราย ได้แก่  โรงแรม So Sofitel Hua Hin, โรงแรม Mode Sathorn, โรงแรม Dusit Thani. โรงแรม Jasmine City, โรงแรม 500 Rai Resort, โรงแรม Santhiya Koh Yao Yai Resort & Spa, โรงแรม Sheraton Samui, โรงแรม Royal Cliff, โรงแรม Rose, บริษัท Asian Trails, บริษัท Easia Travel, บริษัท Chiang Mai Vacation, และบริษัท Red Elephant ร่วมพบปะและเจรจา

ซื้อขายธุรกิจท่องเที่ยวกับบริษัทนำเที่ยว (TO/TA) ชั้นนำในกรุงอัมสเตอร์ดัม และเมืองใกล้เคียง ที่มาร่วมงานในฐานะผู้ซื้อ (Buyer) จำนวน 48 ราย ทั้งนี้ ในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวจากราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์สามารถใช้บริการเที่ยวบินตรง (Direct Flight) ของสายการบิน KML แบบ Daily Flight ในเส้นทางกรุงอัมสเตอร์ดัม-กรุงเทพ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 และสายการบิน EVA Air จำนวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ในเดือนกรกฎาคม 2565 รวมถึงเที่ยวบินรูปแบบ Connecting Flight ในอีกหลายเส้นทาง โดยเฉพาะผ่านสายการบินตะวันออกกลาง สำหรับราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ เป็น 1 ในตลาดการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทยในภูมิภาคยุโรป จากสถิติปี 2562 (ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19) มีนักท่องเที่ยวจากราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ เดินทางมาประเทศไทย จำนวน 230,006 คน สร้างรายได้ 16,291.98 ล้านบาท

กิจกรรมส่งเสริมการขาย “Amazing Thailand New Chapters Roadshow to Paris” ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 มีจำนวนผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยเข้าร่วมงานในฐานะ Seller จำนวน 12 ราย ได้แก่  โรงแรม So Sofitel Hua Hin, โรงแรม Mode Sathorn, โรงแรม Dusit Thani. โรงแรม Jasmine City, โรงแรม 500 Rai Resort, โรงแรม Santhiya Koh Yao Yai Resort & Spa, โรงแรม Sheraton Samui, โรงแรม Royal Cliff, โรงแรม Rose, บริษัท Asian Trails, บริษัท Easia Travel, และบริษัท Chiang Mai Vacation พบปะธุรกิจท่องเที่ยวกับบริษัทนำเที่ยวชั้นนำในกรุงปารีสในฐานะผู้ซื้อ (Buyer) จำนวน 63 ราย ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐฝรั่งเศส สามารถเดินทางมาประเทศไทยได้อย่างสะดวกด้วยเที่ยวบินตรง เส้นทางกรุงปารีส-กรุงเทพฯ ของสายการบินไทย (Thai Airways) และสายการบิน Air France และรูปแบบ Connecting Flight ในอีกหลายเส้นทางด้วย สำหรับสาธารณรัฐฝรั่งเศส เป็น 1 ในตลาดการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทยในภูมิภาคยุโรป มีจำนวนประชากรประมาณ 67 ล้านคน โดยในปี 2562 (ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19) มีนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐฝรั่งเศส เดินทางมาประเทศไทย จำนวน 713,405 คน สร้างรายได้ 42,827.24 ล้านบาท

ปิดท้ายกับงาน “Amazing Thailand New Chapters Roadshow to Ghent” ณ เมืองเกนต์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 มีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยเข้าร่วมงานในฐานะผู้ขาย (Seller) จำนวน 12 ราย และธุรกิจท่องเที่ยวกับบริษัทนำเที่ยวชั้นนำในเมืองเกนต์ และพื้นที่ใกล้เคียงมาร่วมงานในฐานะผู้ซื้อ (Buyer) จำนวน 60 ราย โดยมีสายการบิน Emirates เป็นสายการบินพันธมิตรให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรม ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจากราชอาณาจักรเบลเยี่ยมได้รับความสะดวกในการเดินทางมาประเทศไทยด้วยเที่ยวบินตรง (Direct Flight)  เส้นทางกรุงบรัสเซลส์-กรุงเทพ ของสายการบินไทย (Thai Airways) ในช่วง Summer (July-August 2022) และยังสามารถเดินทางแบบ Connecting Flight ผ่านสายการบินจากตะวันออกกลาง เช่น สายการบิน Emirates สำหรับราชอาณาจักรเบลเยี่ยม เป็น 1 ในตลาดการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทยในภูมิภาคยุโรป มีจำนวนประชากรประมาณ 11 ล้านคน (สำหรับเมืองเกนต์ มีประชากรประมาณ 260,341 คน) โดยในปี 2562 (ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19) มีนักท่องเที่ยวจากราชอาณาจักรเบลเยี่ยมเดินทางมาประเทศไทย จำนวน 114,016 คน สร้างรายได้ 7,312.50 ล้านบาท

สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรป เป็นตลาดคุณภาพที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากสถิติ ปี 2564 ประเทศไทยให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรปแล้วจำนวน 250,948 คน โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ เยอรมนี (45,874 คน) สหราชอาณาจักร (38,663 คน) รัฐเซีย (30,759 คน) กลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก (27,047 คน) และฝรั่งเศส (23,461 คน) ซึ่งตั้งแต่รัฐบาลประกาศเปิดรับนักท่องเที่ยว (Thailand Reopening) ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 – 30 เมษายน 2565 มีจำนวนนักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรปเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว จำนวน 605,803 คน-ครั้ง ซึ่งตลาดยุโรปถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด แบ่งเป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส 63,202 คน-ครั้ง ถือเป็นตลาดอันดับ 5 รองจากสหราชอาณาจักร เยอรมนี รัสเซีย และกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก ทั้งนี้ จากข้อมูลรายงานจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 – 29 พฤษภาคม 2565 พบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรปสะสม จำนวน 81,616 คน โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ สหราชอาณาจักร (21,123 คน) เยอรมนี (14,222 คน) ฝรั่งเศส (11,644 คน) รัสเซีย (6,425 คน) และเนเธอร์แลนด์ (4,533 คน)  สะท้อนว่าประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในใจของนักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรป และตลาดยุโรปยังคงเป็นตลาดศักยภาพที่มีอัตราการเดินทางท่องเที่ยวไทยสูง มีแนวโน้มของการเติบโตทอย่างต่อเนื่อง นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวตลาดระยะไกล (Long-Haul Markets)ทั้งนี้ ททท. คาดการณ์ว่าการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย Roadshow ในภูมิภาคยุโรปครั้งนี้ จะเป็นการสร้างโอกาสในการนำเสนอขายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของผู้ประกอบการเพื่อรองรับฤดูกาลการท่องเที่ยวของประเทศไทยในช่วงปลายปี และช่วงชิงความได้เปรียบในการแข่งขันตลาดท่องเที่ยวของประเทศไทยในภูมิภาคยุโรป พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เกิดเสถียรภาพและเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน และ ททท. ตั้งเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยว ปี 2565 ทั้งหมดอยู่ที่ 1.5 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 7 -10 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 625,800 ล้านบาท และจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศ 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 
ไม่ต่ำกว่า 656,000 ล้านบาท