ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวเศรษฐกิจ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เข้าร่วมงาน Internationale Tourismus Borse (ITB) Asia 2022 ในวันที่ 19-21 ตุลาคม 2565 ณ Sands Expo and Convention Centre, Marina Bay Sands สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยนำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวไทยที่ทรงคุณค่าและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “Meaningful Travel : Sustainable Tourism” พร้อมนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมเจรจาธุรกิจ 14 ราย และจัดกิจกรรมร่วมกับพันธมิตรเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งในกลุ่มเดินทางซ้ำและเจาะกลุ่มตลาดใหม่ คาดดึงดูดตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติระยะใกล้โค้งสุดท้ายช่วงปลายปีและจุดกระแสแคมเปญ “Visit Thailand Year 2022 - 2023 : Amazing New Chapters” เพื่อรุกตลาดต่อเนื่องสู่เป้าหมายรายได้จากตลาดต่างชาติ 9.7 แสนล้าน – 1.5 ล้านล้านบาท ในปี 2566
 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า งาน ITB Asia 2022 มีกำหนดการจัดงานในวันที่ 19-21 ตุลาคม 2565 ณ Sands Expo and Convention Centre, Marina Bay Sands สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยงาน ITB Asia เป็นงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวและเจรจานัดหมายทางธุรกิจที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งแต่ละปีจะมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากทั่วโลก ร่วมออกบูธกว่า 600 ราย จาก 100 ประเทศ และมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 13,000 คน ในปีนี้นับเป็นการจัดงานครั้งที่ 15 และเป็นปีที่ ททท. กลับมาร่วมงานอย่างเต็มรูปแบบภายหลังจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19
 

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า สำหรับคูหาประเทศไทยในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Meaningful Travel : Sustainable Tourism” สื่อสารถึงการเดินทางท่องเที่ยวไทยที่มีความหมายและทรงคุณค่าผนวกกับแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยตกแต่งภายในคูหาด้วยวัสดุธรรมชาติ ใช้ผลิตภัณฑ์จักสานสื่อถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนไทย พร้อมกิจกรรมที่สอดคล้องกัน อาทิ การสานปลาตะเพียนและการทำยาดมสมุนไพร เน้นแสดงให้ผู้เข้าเยี่ยมชมรู้สึกถึงประสบการณ์ที่อบอุ่นซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้รับจากการมาเยือนประเทศไทย
 

ภายในคูหาประเทศไทย ททท. ยังได้นำผู้ประกอบการภาคเอกชนไทย (Sellers) เข้าร่วมงานจำนวน 14 ราย ประกอบด้วย โรงแรมและรีสอร์ตจำนวน 13 ราย และบริษัทนำเที่ยวจำนวน 1 ราย พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดสำหรับนักท่องเที่ยวตลาดสิงคโปร์และตลาดเอเชีย ได้แก่ 
• การประชาสัมพันธ์แคมเปญ “SG Goes High” เพื่อส่งเสริมนักท่องเที่ยวตลาดสิงคโปร์
• การร่วมมือกับการบินไทยและแอร์เอเชียส่งเสริมนักท่องเที่ยวกลุ่ม Millennials โดยสนับสนุนบัตรโดยสารที่นั่งชั้นประหยัดราคาพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์และฟิลิปปินส์ 
• การส่งเสริมการขายร่วมกับ Online Travel Agency (OTAs) อาทิ KLOOK, Expedia, Trip.com และการร่วมมือกับพันธมิตรรายใหม่ Porsche Club และ Retro Classic Car Club ส่งเสริมกลุ่มนักท่องเที่ยวผู้ขับรถหรูเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทย
• การส่งเสริมนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพกลุ่มใหม่ของตลาดสิงคโปร์ อาทิ ร่วมกับธนาคาร UOB นำเสนอสินค้าท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health and Wellness) สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้หญิงระดับบน และร่วมกับบริษัทนำเที่ยว นำเสนอสินค้า “Meaningful Journey” สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนักเรียนนักศึกษา
 

นอกจากนี้ ททท. ได้จัดงาน “Amazing Thailand New Chapters Reception” ขึ้นในวันที่ 18 ตุลาคม 2565 เพื่อสร้างการรับรู้ต่อแคมเปญ “Visit Thailand Year 2022 - 2023 : Amazing New Chapters” ซึ่งเป็นแคมแปญดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2566 โดยเชิญกลุ่มพันธมิตรจากตลาดสิงคโปร์เข้าร่วมงาน ภายในงานเริ่มด้วยนำเสนอสินค้าการท่องเที่ยวไทย การแสดงดนตรีโดยวง The Sound of Siam และศิลปิน ปุ้ย-ดวงพร การแสดงทางวัฒนธรรมชุด “ขวัญข้าวจิตวิญญาณแห่งข้าวไทย” และ ชุด “อีสานม่วนซื่น” การแสดงเพลงกลองยาว และการแสดงมวยไทย
 

สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวสิงคโปร์นับเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ ททท. ให้ความสำคัญ และคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยนั้นฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากกการผ่อนคลายมาตรการในการเดินทางเข้าประเทศระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐสิงคโปร์ สถิตินักท่องเที่ยวเดือนมกราคม - สิงหาคม 2565 อยู่ที่ 184,905 คน (เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสถิติปี 2563 นักท่องเที่ยว 126,787 คน) โดยมีอัตรานักท่องเที่ยวเดินทางซ้ำ (Revisit) มายังประเทศไทยถึง ร้อยละ 91 และค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ปัจจุบันอยู่ที่ 40,000 – 45,000 บาท อีกทั้งประเทศไทยยังติดอันดับ 3 จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ 
 

ทั้งนี้ ททท. เชื่อมั่นว่าการเข้าร่วมงาน “ITB Asia 2022” จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ และนักท่องเที่ยวประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียให้เดินทางมาเยือนประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ตลอดจนช่วยปลุกกระแสการท่องเที่ยวไทยตลอดปี 2566 มุ่งสู่เป้าหมายรายได้จากตลาดต่างชาติ 9.7 แสนล้าน – 1.5 ล้านล้านบาท ได้อย่างแน่นอน