นายกรัฐมนตรีแสดงวิสัยทัศน์ IGNITE TOURISM THAILAND จุดพลังการท่องเที่ยวไทยมุ่งสู่ Tourism Hub พร้อมโชว์ศักยภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยทุกมิติในปี 2568
วันนี้ 2 เมษายน 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ IGNITE TOURISM THAILAND จุดพลังการท่องเที่ยวไทยด้วยแนวคิด Up Level, Add Story และ Create Value ชู 5 กลยุทธ์ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Tourism Hub ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวของภูมิภาค หรือ Tourism Hub ถือเป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์ประเทศไทยที่รัฐบาลมุ่งนำพาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในทุกมิติ โดยในปีนี้ รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายรายได้ทางการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท และจะทวีเพิ่มมากขึ้นในปีต่อ ๆ ไป ด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ การยกระดับ Experience ของการท่องเที่ยวไทยในทุก Touchpoint การโปรโมท Soft Power ด้วยเรื่องราว ( Story ) ที่ดึงดูดใจผ่านการนำเสนอ 5 Must Do in Thailand การกระจายการท่องเที่ยวเชื่อมสู่เมืองใกล้เคียงที่เป็นเมืองน่าเที่ยว หรือ Hidden Gems การพัฒนาการท่องเที่ยวทั้งภูมิภาค CLMV โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง และการเป็นศูนย์กลาง Event ระดับโลกตลอดทั้งปี พร้อมให้ความสำคัญกับคุณภาพทางการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับปริมาณจำนวนนักท่องเที่ยว และการร่วมมือบูรณาการทำงานกันของทุกฝ่าย จะทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้างและกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนท้องถิ่น ตลอดจนทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องการมาเยือน
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ด้วยวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีที่จะทำให้ประเทศไทยเป็น Tourism Hub และเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก สอดรับกับการขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Thailand’s Aviation Hub ที่จะรองรับผู้เดินทางได้มากถึง 150 ล้านคนต่อปีในปี 2030 ในปี 2025 ที่กำลังจะมาถึงนี้ จะปักหมุดการท่องเที่ยวไทยให้ปังกว่าเดิม โดยจะเพิ่มมิติใหม่แห่งการท่องเที่ยวและผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยผลจากการประชุมระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนใน Workshop IGNITE Thailand’s Tourism เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะจุดพลังอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วยแนวคิด Up Level ผ่านประสบการณ์ที่เหนือกว่า Add Story เพิ่มเรื่องราวมากกว่าที่เคยสัมผัส และ Create Value สร้างมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากความเป็นไทย ด้วย 5 กลยุทธ์หลักมัดใจนักท่องเที่ยวให้ปี 2025 เป็นปีที่นักท่องเที่ยวจะประทับใจในทุกย่างก้าว ทุกประสบการณ์ที่ได้สัมผัส และสะดวกสบายในทุก Touch Point
ทั้งนี้สำหรับ 5 กลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยจุดพลังขับเคลื่อนการท่องเที่ยว ได้แก่ การยกระดับประสบการณ์จะโปรโมทการท่องเที่ยวไทยในทุกมิติ และสร้างความประทับใจตลอด Customer Journey ด้วยการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยก่อนการเดินทาง (Before Trip) ให้ข้อมูลครบถ้วนหลากหลาย ทำโปรโมชันกับพันธมิตรให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงได้ในทุกมิติ และระหว่างการเดินทาง (During Trip) จะให้ข้อมูลสำคัญกับนักท่องเที่ยวตั้งแต่บนเครื่องบิน เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการในสนามบิน และสร้างความประทับใจด้วยมัคคุเทศก์ และผู้นำเที่ยวที่มีมาตรฐาน ความพร้อมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทุกสถานที่ ตลอดจนสร้างความน่าสนใจของเส้นทางการท่องเที่ยวภายในประเทศ ให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดและพร้อมรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มโดยเฉพาะผู้พิการและผู้สูงอายุ (Tourism for All) และสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงด้วย 1155 Call Center ซึ่งจะเป็น one-stop service เชื่อมต่อตำรวจท้องที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยกระดับ UCEP (Universal Coverage for Emergency Patients) ในการคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตให้ครอบคลุมนักท่องเที่ยว โดยภายในระยะเวลา 3 เดือนจะอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องรอคิวนานที่สนามบิน ยกระดับมาตรฐานโรงแรมทั่วประเทศพร้อมโปรโมชั่นที่พัก เปิดมาตรการ Free Visa ให้หลากหลายประเทศ ยกระดับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และดูแลความสะอาดห้องน้ำสาธารณะ และภายในระยะเวลา 6 เดือนจะปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ การกำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม กฎหมายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การจัดเก็บภาษีนำเข้าที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมระดับโลกให้แล้วเสร็จ และอำนวยความสะดวกให้มี VAT Refund ในหลายจุด
สำหรับ 5 สิ่งที่ต้องทำในประเทศไทย จะชูเอกลักษณ์ไทย หรือเสน่ห์ไทย ด้วยการนำเสนอเรื่องราวและเพิ่มมูลค่าด้วยการนำจุดแข็งทางธรรมชาติและวัฒนธรรมมาเป็นจุดขาย ได้แก่ Must Beat มวยไทย เปิดประสบการณ์แม่ไม้มวยไทย 4 ภาค และต่อยอดมวยไทยสู่การออกกำลังกายแบบ Cardio ในฟิตเนส Must Eat อาหารไทย ต่อยอดครัวไทยสู่ครัวโลก พร้อมนำเสนอ 77 อาหารถิ่น 77 ขนมไทย ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของคนในแต่ละพื้นที่ Must Seek วัฒนธรรมไทย สร้าง Story บนเส้นทางศรัทธาเพื่อดึงดูดความสนใจ รวมถึงวัฒนธรรมสายมูที่กำลังโด่งดัง Must Buy ผ้าไทย ร่วม Co-branding กับแฟชั่นดีไซเนอร์ระดับโลกให้ผ้าไทยเป็น Fashion Item ที่ทุกคนหลงใหล และ Must See โชว์ไทย นำเสนอทั้งรูปแบบไทยและ Thai Contemporary ให้เป็นที่ประทับใจของคนทั่วโลก
เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวจะเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองใกล้เคียง กระจายนักท่องเที่ยวไปสู่ภูมิภาคต่าง ๆ พร้อมทั้งกระจายรายได้สู่เมืองน่าเที่ยว อาทิ เส้นทาง Lanna Culture (เชียงใหม่ - ลำพูน – ลำปาง) ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ อารยธรรมล้านนา นำเสนอศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิตและประเพณีที่ถ่ายทอดผ่านสถาปัตยกรรม โบราณสถาน เส้นทาง UNESCO Heritage Trail มรดกไทย มรดกโลก (สุโขทัย-กำแพงเพชร และ นครราชสีมา) เส้นทาง NAGA Legacy (นครพนม สกลนคร บึงกาฬ) ตามรอยตำนานศรัทธาพญานาค Paradise Islands (ตรัง-สตูล) หมู่เกาะแห่งอันดามันใต้ สวรรค์แห่งท้องทะเล The Wonder of Deep South (ปัตตานี - ยะลา - นราธิวาส) ใต้สุดแห่งสยาม มนต์เสน่ห์แห่งพหุวัฒนธรรม โดยจะจัดเตรียมความพร้อม Upgrade ที่พักให้มีความสะดวกสบาย และร้านอาหารที่ได้มาตรฐาน Update แพ็คเกจการเดินทางและโปรโมชันให้ตอบโจทย์ทุกเส้นทาง ตลอดจน Accommodate เส้นทางในการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่
Hub of ASEAN เปิดประตูการท่องเที่ยวสู่อาเซียนให้สามารถเชื่อมโยงการเดินทางกับประเทศเพื่อนบ้านพันธมิตรให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานให้การเดินทางท่องเที่ยวเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ ให้อาเซียนเป็น Single Destination ด้วย ASEAN Pass จากความร่วมมือของพันธมิตรสายการบินในการออกแพ็คเกจตั๋วเครื่องบินให้นักท่องเที่ยวเดินทางเชื่อมต่อไปประเทศอาเซียน ด้วยความสะดวกสบาย ประหยัด และ Cross Border QR Payment อำนวยความสะดวกเรื่องช่องทางการชำระเงินให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้จ่ายได้อย่างสะดวกสบาย
World Class Event Hub ให้เมืองไทยเป็นศูนย์รวม World Class Experience จากการนำ Event ระดับโลกเข้ามาจัดแสดงในประเทศ ทั้งด้านดนตรี กีฬา อาหาร และไลฟ์สไตล์ อาทิ Summer Sonic Bangkok 2024, KAWS: Holidays Thailand 2025, Moto GP, Volleyball World Championship เป็นต้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้และชื่อเสียงให้กับประเทศ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 1 เมษายน 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ 9.4 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 โดย 5 กลยุทธ์ข้างต้นจะช่วยจุดพลังอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย “IGNITE TOURISM THAILAND” สู่ Tourism Hub ให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากขึ้น พำนักในประเทศไทยนานขึ้น และใช้จ่ายมากขึ้น ให้ประเทศไทยเป็นที่หนึ่งของการท่องเที่ยว ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากคนไทยทุกภาคส่วน
แสดงผล 555 ครั้ง