“รมว.เสริมศักดิ์” แถลงผลการดำเนินมาตรการเยียวยาฯ นทท.ต่างชาติ พร้อมเตรียมชง ค.ร.ม. ขยายเวลาโครงการต่อ
วันที่ 17 มิถุนายน 2567 ณ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการแถลงข่าว “การยกระดับความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยการท่องเที่ยวไทย” ร่วมกับ นายมงคล วิมลรัตน์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เรืออากาศเอกนายแพทย์ อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ พล.ต.ท. ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดยมีคณะผู้บริหารกระทรวงฯ ประกอบด้วย นายพลภูมิ วิภัตภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรี นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรี ดร.เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เลขานุการรัฐมนตรี นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นเกียรติเข้าร่วมงาน
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยตั้งเป้าหมายในปี 2567 ให้บรรลุรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 36.7 ล้านคน โดยรัฐบาลจะเน้นการพัฒนาทั้งด้านการตลาด (Demand side) และด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการ (Supply side) โดยให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวก ป้องกันและรักษาความปลอดภัย ช่วยเหลือเยียวยา และการสื่อสารประชาสัมพันธ์ข้อมูล เพื่อสร้างความมั่นใจและความประทับใจต่อประเทศไทย ซึ่งหนึ่งในมาตรการสำคัญที่รัฐบาลดำเนินการในขณะนี้ คือ การช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่บาดเจ็บและเสียชีวิต โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รับมอบหมายและกำหนดหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือเยียวยา รวมถึงกรณีอุบัติเหตุ อาชญากรรม และภัยอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 31 สิงหาคม 2567 โดยที่เหตุการณ์ดังกล่าวจะต้องไม่เกิดจากความประมาท เจตนา การกระทำผิดกฎหมาย หรือพฤติการณ์ที่เสี่ยงของนักท่องเที่ยว
สำหรับอัตราชดเชยในโครงการนี้ ประกอบด้วย กรณีเสียชีวิตไม่เกิน 1 ล้านบาท, การสูญเสียอวัยวะถาวร สูญเสียสายตา ทุพพลภาพถาวร ชดเชย จำนวน 300,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลจ่ายตามจริงไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งกำหนดไว้ว่าผู้ยื่นคำขอจะต้องถือหนังสือเดินทางประเภทนักท่องเที่ยว โดยสามารถยื่นคำขอได้ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดทั่วประเทศ, ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง รวมถึงทางไปรษณีย์และอีเมลที่กำหนด ทั้งนี้ ในช่วงระยะเวลา 5 เดือนของการดำเนินโครงการนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติยื่นคำขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยา จำนวนกว่า 50 ราย และผ่านการเห็นชอบตามเกณฑ์ให้จ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาจำนวน 7 ราย แบ่งเป็นกรณีเสียชีวิต 4 ราย และกรณีบาดเจ็บ 3 ราย และเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก เฝ้าระวัง และมีมาตรการสร้างความอบอุ่นใจ อาทิ สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 และแอปพลิเคชัน Thailand Tourist Police ซึ่งใกล้จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอความร่วมมือจากสถานทูตต่าง ๆ ช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องแนวปฏิบัติในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะการตระหนักถึงความปลอดภัยทางถนนที่ต้องขับขี่อย่างระมัดระวัง มีใบอนุญาตขับขี่อย่างถูกต้อง
รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้โครงการนี้จะมีการจ่ายเงินเยียวยาเป็นจำนวนที่ไม่มากนักในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากการจ่ายเงินเยียวยาต้องเป็นไปตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ที่กำหนดและต้องผ่านการพิจารณาอย่างรอบด้านจากคณะกรรมการ แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยให้ความสำคัญและใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอย่างสูงสุดเพื่อให้นักท่องเที่ยวมั่นใจได้ว่าการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม โครงการนี้จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 สิงหาคม 2567 แต่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการขอขยายอายุออกไปอีกระยะ เพื่อคงมาตรการที่จะช่วยสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว ก่อนที่จะมีการเดินหน้าจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ถูกชะลอในช่วง Low Season ตามนโยบายของรัฐบาลในช่วงเวลานี้
แสดงผล 320 ครั้ง