รมว. ท่องเที่ยวร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมมอบนโยบายขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ World Class Destination
บ่ายวันนี้ (3 ตุลาคม 2567) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก (World Class Destination) ณ ห้องนภาลัย แกรนด์ บอลรูม โรงแรม ดุสิตธานี กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำเสนอแผนการดำเนินงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 2567 - 2568 และแนวทางการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบาย IGNITE THAILAND’s TOURISM เพื่อความต่อเนื่องในการดำเนินงาน โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน พร้อมสร้างความมั่นใจให้เกิดการลงทุนทางการท่องเที่ยวด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งการลงทุนในแหล่งท่องเที่ยวแบบ Man-made และการดึง Global Event เข้ามาจัดในประเทศไทย มุ่งให้ประเทศไทยเป็น Entertainment Hub สร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางด้วย ONE MAP TOURISM ในแต่ละจังหวัด พร้อมมุ่งส่งเสริมนักท่องเที่ยวในทุก Segment กำหนดมาตรฐานราคาให้เหมาะสมกับคุณภาพสินค้าและบริการ ผลักดันการท่องเที่ยวเชิงกีฬา พร้อมร่วมมือกับภาคเอกชนและพันธมิตรทางด้านสายการบิน เพื่อฟื้นฟูเที่ยวบินให้คืนกลับมาเต็มที่ และขยายสู่เส้นทางเมืองรอง โดยอาจเริ่มจาก Charter Flight สู่ Regular Flight รวมถึงอำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งในเรื่องการคมนาคมทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ตลอดจนยกระดับระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และความปลอดภัยเพื่อให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก (World Class Destination)
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท. เร่งขับเคลื่อนสู่เป้าหมายในการผลักดันประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก World Class Destination ด้วยการกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ สำหรับตลาดในประเทศ สร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยว 5 ภูมิภาค นำเสนอจุดแข็งจุดขายของของสินค้าและบริการในพื้นที่ต่างๆ ด้วยเสน่ห์ไทย (Soft Power of Thailand) ผ่านแนวคิด 5 Must Do in Thailand ส่งเสริมการเดินทางสู่เมืองน่าเที่ยว ดึงจุดเด่นเอกลักษณ์เฉพาะพื้นที่มาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ให้สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี พร้อมมุ่งเน้นส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบเพื่อสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สำหรับตลาดต่างประเทศ ตลาดระยะใกล้ กระตุ้นความถี่ เพิ่มวันพักเฉลี่ย และการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพ ส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการเดินทางแบบ Overland สร้างภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศไทยเอาใจนักท่องเที่ยวกลุ่ม New Gen อาทิ Young Generation Lady และ Sport เป็นต้น ในขณะที่ตลาดระยะไกล ใช้กลยุทธ์ Airlines Focus ขยายตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพและการฟื้นความจุที่นั่งสายการบินและความถี่ของเที่ยวบิน เปิดเส้นทางบินใหม่ มุ่งส่งเสริมให้เกิดการบินจาก Local Airport ในตลาดระยะไกลมายัง Local Airport ของประเทศไทย เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้จ่ายด้วย Cashless Society และส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวแบบยั่งยืน (Net Zero Tourism) และสื่อสารแคมเปญผ่านแบรนด์ Amazing Thailand ภายใต้แนวคิด Your Stories Never End
ทั้งนี้ สำหรับการเข้าสู่ไฮซีซั่นทางการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 2567 ททท. ได้วางแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างชาติเพื่อผลักดันจำนวนและรายได้ทางการท่องเที่ยวสู่เป้าหมายด้วยบิ๊กอีเวนต์ Thailand Winter Festival อาทิ โครงการ Vijit Chao Praya, สีสันแห่งสายนํ้า มหกรรมลอยกระทงทั่วประเทศ, Amazing Thailand Signature และ Amazing Thailand Marathon Bangkok 2024 เป็นต้น ตลอดจนเพิ่มแรงส่งอย่างต่อเนื่องในปี 2568 ด้วย Amazing Thailand Grand Tourism Year 2025 ตลอดปี
แสดงผล 544 ครั้ง