ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวเศรษฐกิจ

รมว.ท่องเที่ยว ประกาศจุดพลังท่องเที่ยวไทยปี 68 ด้วย Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 มุ่งปรับมาตรการเดินทาง พร้อมยกเสน่ห์ไทยและ Hidden Gems มัดใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 นายสรวงศ์  เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นประธานกิจกรรม Amazing Thailand Press Conference 2024 ในงาน World Travel Market (WTM) 2024    ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร จุดพลังการท่องเที่ยวไทยในปี 2568 ด้วย “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” ภายใต้ IGNITE Thailand’s Tourism โดยมุ่งยกระดับมาตรการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ส่งเสริมเมืองน่าเที่ยว (Hidden Gem Cities) และเผยแพร่เสน่ห์ไทย ผสานกับแนวคิด 5 Must Do in Thailand เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและความหมาย พร้อมนำพาการท่องเที่ยวไทยทะยานสร้างรายได้ท่องเที่ยวสูงสุดที่ 3.4 ล้านล้านบาท พร้อมกันนี้ได้จัดพิธีมอบรางวัล Responsible Thailand Awards 2024 จำนวน 5 สาขารางวัล ตอกย้ำความพยายามในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง

นายสรวงศ์  เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ปี 2568 จะเป็นปีที่การท่องเที่ยวไทยก้าวสู่บทต่อไปอย่างยิ่งใหญ่กว่าที่เคย ภายใต้วิสัยทัศน์ “IGNITE Thailand’s Tourism” เน้นย้ำหมุดหมายของการพลิกฟื้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน โดยรัฐบาลจะประกาศให้ ปี 2568 เป็น Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก ตามเป้าหมายสูงสุดที่ 39 ล้านคน ด้วยสุดยอดอีเวนต์และสิทธิประโยชน์แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองปีแห่งการท่องเที่ยวแต่ยังเป็นสัญญาณเชิญชวนนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาสัมผัสคุณค่าและความหมายของการท่องเที่ยวในประเทศไทย และเกิดเป็นความประทับใจจนไม่อาจลืมเลือน 

กิจกรรม Amazing Thailand Press Conference 2024 ได้นำเสนอสถานการณ์การท่องเที่ยว สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ตลอดจนแนวทางในการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักรแก่บริษัทนำเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทย สู่เป้าหมายรายได้สูงสุดที่ 3.4 ล้านล้านบาท ด้วย 4 หัวใจหลัก ได้แก่ มุ่งสู่การเป็นผู้นำการท่องเที่ยวระดับโลก โดยรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกในการเดินทางท่องเที่ยว (Ease of Traveling) ทั้งการปรับมาตรการวีซ่า และส่งเสริมการเชื่อมโยงเครือข่ายการเดินทางภายในภูมิภาคให้มีความสะดวกสบายและราบรื่นไร้รอยต่อผ่านนโยบาย "6 ประเทศ 1 จุดหมาย", ประชาสัมพันธ์จุดหมายปลายทางที่มีอัตลักษณ์และประสบการณ์เชิงวัฒนธรรม โดยเฉพาะในพื้นที่ Hidden Gem Cities เมืองน่าเที่ยวที่มีความพิเศษไม่เหมือนใคร อาทิ จังหวัดน่าน แพร่ สกลนคร สร้างประสบการณ์ความหลากหลายในการเดินทางท่องเที่ยว ควบคู่กับการเผยแพร่ทุนทางวัฒนธรรมเป็นเสน่ห์ (Soft Power) แต่ละท้องถิ่น ในแง่มุมของการอนุรักษ์และส่งเสริมประเพณี ศิลปะ และหัตถกรรมไทย พร้อมขยายผลด้วยแนวคิด 5 Must Do in Thailand ได้แก่ Must Taste, Must Try, Must Buy, Must See, Must Seek เพื่อให้ได้สัมผัสเสน่หความเป็นไทยที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยในทุกมิติ

ไม่เพียงเท่านั้น จะผลักดันประเทศไทยเป็น ศูนย์กลางของอีเวนต์และความบันเทิงระดับโลก ผ่านสุดยอดอีเวนต์ เทศกาลและงานประเพณีตลอดทั้งปี อาทิ Amazing Thailand Countdown 2025 งาน MotoGP ในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม และงานสงกรานต์อันโด่งดังในเดือนเมษายน เพื่อยกระดับกิจกรรมในประเทศไทยสู่ Global Event ที่คนทั่วโลกรอคอยและต้องการเดินทางมาเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์จริงในประเทศไทยด้วยตัวเอง คาดว่าจะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวตลอดทั้งปีและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้เป็นอย่างมาก รวมทั้งย้ำถึงความสำคัญของ การมีส่วนร่วมของภาคเอกชน และการสร้างโอกาสการลงทุนใหม่ๆ พร้อมร่วมผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค (Tourism Hub) และจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก

โอกาสเดียวกันนี้ ททท. ยังได้จัดพิธีมอบรางวัล Responsible Thailand Awards 2024 เป็นโครงการที่ ททท. ตั้งใจให้เป็นส่วนหนึ่งในการเร่งผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน ตาม 17 เป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals : STGs) เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการไทยพัฒนาสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่มีมาตรฐานและให้บริการอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยปีนี้เป็นปีที่ 17 ของการมอบรางวัลดังกล่าว และมีผู้สมัครเข้าร่วมการคัดเลือกกว่า 162 ราย ประกอบด้วย 5 สาขารางวัล ได้แก่ 1) Responsible Animal Welfare ได้แก่ Elephant Hills จ.สุราษฎร์-ธานี, 2) Responsible Conservation ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านบางโรง จ.ภูเก็ต, 3) Responsible Community Tourism ได้แก่ Khao Lak Merlin Resort จ.พังงา,4) Responsible Accommodation ได้แก่ Anurak Community Lodge จ.พังงา และ 5) Responsible Local Guide ได้แก่ Ms. Wipaporn Ord (บริษัท All Points East) 

ทั้งนี้ รางวัลดังกล่าวสะท้อนความตั้งใจของ ททท. ในการตอกย้ำและส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมกันนี้ ได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา “Green Side Story” ซึ่งเป็นแคมเปญสื่อสารแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในต่างประเทศของ ททท. สำหรับปี 2568 เป็นครั้งแรกในงาน WTM 2024 อีกด้วย

แสดงผล 367 ครั้ง