ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวเศรษฐกิจ

วันนี้ (22 พฤศจิกายน 2567) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำทีม ททท. ผู้ประกอบการและพันธมิตรทางการท่องเที่ยวไทย ร่วมงาน China International Travel Mart (CITM) 2024 จัดขึ้นในวันที่ 22-24 พฤศจิกายน 2567 ณ National Exhibition and Convention Center นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน บูสต์ตลาดท่องเที่ยวชาวจีนระดับพรีเมียม ปรับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย ผลักดันรายได้ตลาดจีนสู่เป้าหมาย พร้อมทั้งกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน ในโอกาสที่ปี 2568 เป็นปีเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า งาน China International Travel Mart (CITM) 2024 เป็นงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีพื้นที่จัดงานขนาด 53,000 ตารางเมตร และคูหาจัดแสดงกว่า 2,500 คูหา จากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจะเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวภาคเอกชนไทยได้เจรจาธุรกิจกับผู้แทนบริษัทนำเที่ยวในตลาดจีน ตลอดจนนำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวของไทยในตลาดจีน รวมทั้งสร้างความมั่นใจและสร้างภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยและสาธารณสุขของประเทศไทย เพื่อรักษาฐานและขยายตลาดนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มศักยภาพ เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากทั้งเมืองหลักและเมืองรองของจีนให้ตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางแรก ๆ สำหรับการเดินทางท่องเที่ยว รวมทั้งส่งเสริมให้เพิ่มวันพักเฉลี่ยและเพิ่มค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและจีน ทั้งในมิติด้านเศรษฐกิจ การลงทุน การศึกษา โดยเฉพาะการส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงเพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ได้นำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเดินทางเพื่อเข้าร่วมงาน CITM 2024 โดยคูหาประเทศไทยปีนี้มีขนาด 361 ตารางเมตร มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยจากจังหวัดภูเก็ต จังหวัดเชียงราย และจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยสายการบินพันธมิตรในพื้นที่ตลาดจีน คือ สายการบิน Spring Airlines และสายการบินแอร์เอเชีย เข้าร่วมงานจำนวน 51 ราย พร้อมนำเสนอด้วยแนวคิด “Let’s have fun in Amazing Thailand” โดยนำเสนอประเทศไทยในมุมมองใหม่ที่สนุกสนาน สดใส ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ผ่านแนวคิด 5 Must do in Thailand (Must taste, Must see, Must seek, Must buy และ Must try) ที่ทุกคนสามารถค้นพบความสนุกในแบบของตัวเองได้ระหว่างเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย ภายในคูหาจะเน้นการใช้สื่อมัลติมีเดีย และกิจกรรมต่าง ๆ ที่กระตุ้นและเชิญชวน  

ให้นักท่องเที่ยวออกมาสัมผัสกับเสน่ห์ที่น่าประทับใจของประเทศไทยด้วยตัวเอง  ซึ่ง ททท. มุ่งเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวกำลังซื้อสูง ตั้งแต่ระดับ Middle Class ขึ้นไป ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจชะลอตัวมากนัก และเป็นกลุ่มที่มีเงินออม เปิดใจกว้าง และต้องการหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ซึ่งสามารถเพิ่มการใช้จ่ายเงินในประเทศไทยให้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอำนาจในการตัดสินใจเดินทาง

สถิติจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 10 พฤศจิกายน 2567 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว 5,860,148 คน ครองแชมป์นักท่องเที่ยวต่างชาติ       ที่เดินทางเข้าประเทศไทยสูงที่สุด โดยข้อมูลจากผู้ให้บริการจองที่พักและบริการท่องเที่ยวออนไลน์พบว่า ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมเดินทางมาเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากชื่นชอบอัธยาศัยคนไทยที่ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวได้อย่างประทับใจ ชื่นชอบในแหล่งท่องเที่ยวไทยที่มีความสวยงาม อาหารไทยมีรสชาติอร่อย สนุกกับการชอปปิง และติดใจนวดแผนไทย โดยนครเซี่ยงไฮ้ยังเป็นเมืองที่มีการส่งออกนักท่องเที่ยวไปไทยสูงสุดอีกด้วย

ทั้งนี้ การเดินทางมาประเทศไทยยังได้รับสัญญาณบวกจากการฟื้นตัวของความจุโดยสารเที่ยวบิน (Seat Capacity) ในปี 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 8,588,274 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 65 ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากการขยายเส้นทางการบินตรงจากพื้นที่ศักยภาพของจีน ได้แก่ เมืองซีอาน ฉางชา และเจิ้งโจว ประกอบกับปัจจัยสนับสนุนด้านอื่น ๆ  ได้แก่ มาตรการยกเว้นวีซ่าไทย-จีน การเติบโตของนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่มีคุณภาพ        และศักยภาพในการใช้จ่ายสูง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขาย Amazing Thailand Road Show to China    และการเข้าร่วมงาน CITM 2024 ของ ททท. จะช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวคุณภาพ       จากสาธารณรัฐประชาชนจีนเพิ่มสูงขึ้น สร้างรายได้เฉลี่ยต่อการพำนัก และจำนวนวันในการพำนักเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเป็นแรงส่งช่วยผลักดันให้นักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางเข้าท่องเที่ยวประเทศไทย บรรลุตามเป้าหมาย 7.3 ล้านคนที่ตั้งไว้ในปี 2567 โดยมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2568 และมุ่งสู่เป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างยั่งยืนตลอดไป