ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวกิจกรรม

กรุงเทพฯ / 1 มีนาคม 2559 เวลา 14.00 น. - (วันนี้)  บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส นำโดย นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ นายพรต เสตสุวรรณ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ส่วนการตลาด นายวรงค์ อิศรเสนา ณ อยธุยา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ส่วนขาย ได้จัดงานแถลงข่าว “ทิศทางการดำเนินงานและแผนการตลาดประจำปี 2559 ของบางกอกแอร์เวย์ส” ณ ห้องพินนาเคิล 4-5 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงาน ว่า “แผนการดำเนินงานส่วนหนึ่งของบางกอกแอร์เวย์สในปี 2559 นี้ คือการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลด้านส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยเมื่อเร็วๆนี้ บริษัทฯ ได้เข้าร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเป็นส่วนหนึ่งของคณะทำงานโครงการ “สานพลังประชารัฐ” เพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยเข้าร่วมใน 2 โครงการ คือ โครงการส่งเสริมการจัดประชุมสัมมนาในประเทศ และโครงการส่งเสริมการบริโภคอาหารไทยและผลไม้ไทย ซึ่งบริษัทฯ ได้ดำเนินการออกแคมเปญส่วนลดบัตรโดยสารฯแก่องค์กรต่างๆ ที่เดินทางเพื่อการประชุมสัมมนาในประเทศ และมีแคมเปญเมนูอาหารที่เสริฟบนเครื่องบินตลอดปีนี้ภายใต้คอนเซ็บต์ “อาหารไทย 4 ภาค” รวมทั้งนำผลไม้ไทยมาเสริฟในห้องรับรองผู้โดยสารและบนเครื่องบิน  นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสนองนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป อาทิ แคมเปญส่วนลดหรือแคมเปญราคาพิเศษบัตรโดยสารฯ ให้แก่บุคลากรภาครัฐ ผู้สูงอายุและผู้พิการ โครงการ U fare by Bangkok Airways ซึ่งเป็นราคาบัตรโดยสารฯ พิเศษสำหรับอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยในประเทศไทยเท่านั้น”

  “สำหรับทิศทางการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2559 นี้ จะยังคงเน้นการขยายโครงข่ายเส้นทางการบินที่ตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารและสายการบินพันธมิตร เพื่อให้ครอบคลุมเส้นทางการเดินทางที่สำคัญทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาค โดยในปีนี้ บริษัทฯ จะเปิดเส้นทางบินใหม่ อาทิ เชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอน กรุงเทพฯ-ดานัง (เวียดนาม)  สมุย – กว่างโจว เป็นต้น นอกจากนี้ ยังจะเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินในเส้นทางบินที่ได้รับความนิยม อาทิ กรุงเทพ – พนมเปญ เพิ่มเป็น 6 เที่ยวบินต่อวัน กรุงเทพ – เชียงใหม่ เพิ่มเป็น 8 เที่ยวบินต่อวัน เชียงใหม่- สมุย จากวันละ 1 เที่ยวบินเพิ่มเป็นวันละ 2 เที่ยวบินในช่วงไฮซีซั่น เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่คาดว่าจะเติบโตสูงขึ้น และ สมุย-สิงคโปร์ เพิ่มเป็นวันละ 2 เที่ยวบิน และเพิ่มเครือข่ายพันธมิตรทางการบินผ่านการทำข้อตกลงเที่ยวบินร่วม (Codeshare Agreement) กับสายการบินชั้นนำจากทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีสายการบินพันธมิตร 20 สายการบิน และกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับอีก 7-8 สายการบิน โดยส่วนใหญ่เป็นสายการบินในเอเชียแปซิฟิค ซึ่งมีอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยสูงสุด ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยและมีการเดินทางเชื่อมต่อไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ ผ่านการให้บริการของบางกอกแอร์เวย์ส ด้านการเพิ่มฝูงบิน บริษัทฯ มีแผนรับมอบเครื่องบินเพิ่มเติมในปีนี้อีก 6-7 ลำ ได้แก่  เครื่องบินแบบเอทีอาร์ 72-600 จำนวน  3 ลำ และ เครื่องบินแบบแอร์บัส 319 อีกจำนวน 3-4 ลำ โดยจะทำให้บริษัทฯ มีจำนวนเครื่องบินรวมทั้งสิ้น 36 ลำ”

“สำหรับโครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) บริษัทฯมีความมุ่งมั่นให้การสนับสนุนและมีส่วนร่วมในการให้บริการและบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นพันธกิจหลักควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจ และเพื่อให้การดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ มีประสิทธิภาพและมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัทฯ จึงเน้นการนำ CSR ให้อยู่ในกระบวนการทำงาน (CSR in Process) และได้ริเริ่มโครงการต่างๆ  อาทิ โครงการ Carbon Footprint รณรงค์ให้พนักงานของบริษัทตระหนักถึงการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการประกอบกิจวัตรประจำ โครงการ Sustainable Destinations การดูแลรักษาแหล่งท่องเที่ยวให้ยั่งยืน โดยเริ่มต้นที่แหล่งท่องเที่ยวในเส้นทางบินของบริษัทฯ  เช่น กิจกรรมปลูกต้นมะพร้าวที่เกาะสมุย โครงการ Eco-friendly Workplace เป็นกิจกรรมภายในองค์กร ที่มีการรณรงค์ในแคมเปญต่างๆเกี่ยวกับ Reduce Reuse Recycle ให้พนักงานตระหนักถึงคุณค่าการใช้ทรัพยากรต่างๆ” นายพุฒิพงศ์กล่าวเสริม

นายพรต เสตสุวรรณ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ส่วนการตลาด เผยถึงแผนการตลาดประจำปี 2559 ว่า “แผนการตลาดของบางกอกแอร์เวย์สในปีนี้ จะใช้นโยบายการตลาดเชิงรุกทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการตอกย้ำภาพลักษณ์ “เอเชียบูธีคแอร์ไลน์ (Asia’s Boutique Airline)” โดยตลาดในประเทศไทยและในเอเชีย จะเปิดตัวแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สะสมความรู้สึกพิเศษไปกับบางกอกแอร์เวย์ส (Collect Your Magic Moments with Bangkok Airways)” มีญาญ่า อุรัสญา เป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งจะตอกย้ำถึงจุดยืนทางการตลาดของเราที่ต้องการมอบบริการเต็มรูปแบบในสไตล์ Asia’s Boutique Airline เพื่อสร้างความทรงจำที่ดีในการเดินทางกับเราให้กับผู้โดยสาร และในปีนี้ บางกอกแอร์เวย์สจะรุกทำ Sports Marketing เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์ของเรากับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น โดยมุ่งเน้นด้านกิจกรรมกีฬาต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาเราได้จัด การแข่งขันกอล์ฟเอเชี่ยนทัวร์รายการ Queen’s Cup Bangkok Airways -SAT Samui Golf Tournament ซึ่งจัดต่อเนื่องมา 7 ปี การแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด Bangkok Airways – Samui Beach Volleyball เป็นต้น สำหรับปีนี้บางกอกแอร์เวย์สจะเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้ทีมฟุตบอลอาชีพ 3 ทีม ได้แก่ เชียงรายยูไนเต็ด เชียงใหม่เอฟซี และ กระบี่เอฟซี  และ ให้การสนับสนุนการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ กว่า 30 รายการ และล่าสุดจะมีทำการโฆษณาแบรนด์บางกอกแอร์เวย์สในการแข่งขันฟุตบอล English Premier League ซึ่งถ่ายทอดสดไปยังทั่วโลก

  ในส่วนของความร่วมมือทางธุรกิจ สายการบินฯ มีแผนที่จะร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการทำกิจกรรมทางการตลาดร่วมกันมากขึ้น อาทิ เครือเมเจอร์ซีนิเพล็กซ์ ซึ่งมีสาขาโรงภาพยนตร์ครอบคลุมเส้นทางบินของบางกอกแอร์เวย์สทั้งในประเทศและต่างประเทศ  เครือข่ายมือถือ เอไอเอส (AIS) และทรู (TRUE) ในการจัดกิจกรรมและจัดทริปพิเศษให้กับลูกค้าร่วมกัน รวมถึงการสร้างพันธมิตรใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปีนี้เราก็ได้มีความร่วมมือเป็นครั้งแรกกับ เคอี กรุ๊ป เจ้าของและผู้บริหารคอมมูนิตี้มอลล์ อาทิ คริสตัลดีไซน์เซ็นเตอร์( CDC ) และ คริสตัล พาร์ค(Crystal Park) ในการทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกันตลอดทั้งปี ในส่วนของกลุ่มธนาคาร เรามีความร่วมมือในการทำโปรโมชั่นต่างๆ อาทิ การผ่อนชำระบัตรโดยสารผ่านบัตรเครดิต การให้ส่วนลดพิเศษ การให้คะแนนสะสมเพิ่มเติม รวมถึงการลุ้นรับรางวัลต่างๆ เมื่อใช้บัตรเครดิต ซึ่งเราได้เพิ่มความถี่ในการจัดกิจกรรมเหล่านั้นมากยิ่งขึ้น”

  “สำหรับรายการสะสมคะแนน”ฟลายเออร์โบนัส” สายการบินฯ ได้มีการจัดแคมเปญ “Ten Years of Magical Journeys” เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 10 ปีของฟลายเออร์โบนัส ซึ่งเปิดโอกาสให้สมาชิกฯ ที่มีการเดินทางกับบางกอกแอร์เวย์ส ร่วมรับสิทธิลุ้นรางวัลในทุกๆ เดือน นอกจากนี้ สายการบินฯ ยังนำระบบ “mReach” ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สามารถติดต่อสื่อสารกับลูกค้าเฉพาะกลุ่มโดยตรงมาใช้ โดยมีการเสนอกิจกรรมทางการตลาดหรือแคมเปญไปยังฐานลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในแต่ละแคมเปญ รวมถึงส่งถึงสมาชิกของพันธมิตรอีกด้วย”

  ในโอกาสครบรอบ 48 ปีของบางกอกแอร์เวย์ส ทางสายการบินฯ จะออกแคมเปญฉลอง 48 ปี มอบโปรโมชั่นบัตรโดยสารราคาพิเศษจำนวน 48,000 ใบ เส้นทางภายในประเทศราคาเริ่มต้น 480 บาทต่อเที่ยว เส้นทางระหว่างประเทศราคาเริ่มต้น 1,480 บาทต่อเที่ยว โดยเป็นกิจกรรมที่จัดผ่านทาง E-Commerce เพื่อเป็นการขอบคุณผู้โดยสารที่สนับสนุนบางกอกแอร์เวย์สด้วยดีเสมอมา ”นายพรต กล่าวเสริม

  นายวรงค์ อิศรเสนา ณ อยธุยา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ส่วนขาย เปิดเผยถึงแผนการขายประจำปี 2559 ของสายการบินฯ ว่า “ในปีนี้ บางกอกแอร์เวย์ส จะมุ่งเน้นการขายไปยังประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย อาทิ เมียนมาร์ เวียดนาม ลาว จีน เป็นต้น ซึ่งสายการบินฯ มองเห็นว่าประเทศเหล่านี้มีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจที่ค่อนข้างดีและมีความต้องการในการเดินทางสูง ซึ่งประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวจากทวีปยุโรปและอเมริกาซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของสายการบินฯ เดินทางผ่านสายการบินพันธมิตร (Codeshare และ Interline partners) มาท่องเที่ยว นอกจากนี้ สายการบินฯ ยังให้ความสำคัญกับตลาดในทวีปอื่นๆ ด้วย เช่น ยุโรป อเมริกา และ แอฟริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในแถบอเมริกาใต้และอเมริกากลาง ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง โดย ในปีนี้ สายการบินฯ จะมีการแต่งตั้งตัวแทนการขายในประเทศต่างๆเหล่านี้ เพิ่มมากขึ้น อาทิ ประเทศกรีซ ประเทศแอฟริกาใต้ และประเทศในละตินอเมริกา โดยคาดว่าจะเป็นการช่วยให้บางกอกแอร์เวย์สเป็นที่รู้จักในกลุ่มตลาดใหม่ๆ และเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น นอกเหนือจากการเข้าร่วมงาน Tradeshow สำคัญๆ ของโลก อาทิ ITB, WTM ที่สายการบินฯเข้าร่วมเป็นประจำทุกปี

สำหรับแผนการขายในประเทศ สายการบินฯ จะมีการออกโปรโมชั่นแพ็คเกจท่องเที่ยวราคาพิเศษ เช่น แพ็คเกจบินดีอยู่ดี ที่รวมบัตรโดยสารเครื่องบิน ที่พักระดับ4-5 ดาว โปรแกรมทัวร์แบบพรีเมี่ยม ในเส้นทางยอดนิยม อาทิ สมุย ภูเก็ต เชียงใหม่ หลวงพระบาง มัลดีฟส์ และการออกโปรโมชั่นบัตรโดยสารราคาพิเศษในช่วงเทศกาลต่างๆ นอกจากนี้จะมีการพัฒนาระบบการขายผ่าน E-commerce ให้มีประสิทธิภาพและสะดวกสบายต่อการใช้งานเพิ่มขึ้น” นายวรงค์กล่าวเสริม